วันอังคาร ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568 23:11 น.

ภูมิภาค

ผู้ว่าฯ โคราช สั่งเร่งแก้ปัญหาคนไทยไร้สถานะ เปิด รพ. มหาราชฯ ตรวจ DNA แห่งที่ 5

วันจันทร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 20.09 น.

ผู้ว่าฯโคราช สั่งลุย เร่งแก้ปัญหาคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน พร้อมเปิดพื้นที่ รพ.มหาราชฯ นครราชสีมาเป็นหน่วยตรวจ DNA แห่งที่ 5 ของประเทศ
 
 นครราชสีมา วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2568) ที่ห้องประชุมสวนหม่อน รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธีเปิดหน่วยตรวจ DNA โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และเปิดการประชุมการจัดทำแนวทางเพิ่มการเข้าถึงบริการกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางสุวรรณาภา ศรีนาค รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และเภสัชกรสายชล พิมพ์เกาะ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา โดยมีผู้แทนจากนายทะเบียนอำเภอในพื้นที่ ผู้แทนหน่วยบริการ ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สปสช.เขต 9 เข้าร่วมประชุมกว่า 70 คน

 


นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีโครงการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อการแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิของคนไทยที่ตกหล่นทางทะเบียนราษฎร เพื่อให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ยังไม่มีรายชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน โดยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นหน่วยตรวจ 1 ใน 5 แห่ง ของประเทศ นอกจากที่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่และสงขลา


“จากกการสำรวจในเบื้องต้น พบว่าในจังหวัดนครราชสีมามีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน เป็นคนที่ไม่มีเลข 13 หลัก ไม่มีบัตรประชาชน และยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นคนไทยจำนวนกว่า 300 คน หากคนกลุ่มนี้ได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สถานะ ก็จะได้รับสิทธิสวัสดิการต่างๆ ในสังคมเช่นเดียวกับคนทั่วไป” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าว

 


 

ทางด้านนางสุวรรณาภา ศรีนาค รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนที่ไม่มีเลข 13 หลัก เข้ารับบริการสาธารณสุขในหน่วยบริการในฐานะผู้ป่วยนอก (OPD) เฉลี่ยปีละ 1,335 ครั้ง ถ้าคิดเป็นจำนวนคนเฉลี่ยน 195 คนต่อปี มูลค่าการรักษาพยาบาลเฉลี่ย 2.17 ล้านต่อปี ที่ผ่านมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการให้ทำบัตรด้อยโอกาส ซึ่งประชาชนที่ถือบัตรนี้สามารถเข้ารับบริการสาธารณสุขได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้การเปิดหน่วยตรวจ DNA น่าจะช่วยให้คนกลุ่มนี้ได้เข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลได้สะดวกขึ้น และไม่เป็นภาระของหน่วยบริการ
 

ภก.สายชล พิมพ์เกาะ รักษาการ ผอ.สปสช.เขต 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ที่ผ่านมา สปสช.เขต 9ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานเรื่องคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2563 โดยความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่นจังหวัด นายทะเบียน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หน่วยบริการสาธารณสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด(พมจ.) รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชน และศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทอง ที่ร่วมกันค้นหากลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน และพาเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สถานะ

 


 

“นอกจากเราจะมีหน่วยตรวจ DNA ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแล้ว ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 หรือนครชัยบุรินทร์ ยังมีหน่วยเก็บสิ่งส่งตรวจสารพันธุกรรมที่โรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และโรงพยาบาลชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ทั้งนี้โดยความร่วมมือของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้คนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนได้รับการพิสูจน์สถานะตามขั้นตอน และถ้าคนกลุ่มนี้เข้ารับการรักษาพยาบาล หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นคนไทยและได้บัตรประชาชน หน่วยบริการจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายย้อนหลังได้ 360 วันจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ภก.สายชล กล่าว
 

ด้าน นพ.ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า รพ.มหาราชนครราชสีมามีความพร้อมในการให้บริการตรวจ DNA เนื่องจากเรามีแพทย์นิติเวชประจำ มีเครื่องมือที่ทันสมัย มีระบบเทคโนโลยีและฐานข้อมูลที่เชื่อมกับกระทรวงมหาดไทย เมื่อมีการส่งต่อบุคคลเพื่อเข้ารับการตรวจสารพันธุกรรม หลังจากผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นโดยนายทะเบียนแล้ว ทั้งนี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียงได้เข้าถึงบริการดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา รพ.มหาราชนครราชสีมาได้ให้บริการตรวจ DNA แล้วในปี 2567-68 จำนวน 260 ราย หลังจากวันนี้คาดว่าน่าจะมีคนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น แต่ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเงื่อนไขและขั้นตอนการปฏิบัติที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดไว้

หน้าแรก » ภูมิภาค