เวลา 15.30 น. วันที่ 18 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 นำกำลังจับกุมพบนายจตุพร (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ในพื้นที่ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย


โดยการจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการระดมจับกุมสิ่งผิดกฎหมายหรือพฤติการณ์ผิดกฎหมายที่กระทำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือผ่านทางเวปไซต์ อันได้แก่อาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ พบว่าบัญชีเฟสบุ๊กชื่อ “จตุพร กว่างน้อย” ได้โพสต์ภาพอาวุธปืนยาวลูกซอง ลงในสื่อสังคมออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบโดยละเอียด และได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขอหมายค้นบ้านเลขที่ 18 ม.4 ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ต่อมาศาลจังหวัดเชียงรายได้อนุมัติหมายค้นเลขที่ ค.166/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านตามหมายค้น พบนายจตุพร  ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายค้นให้กับนายจตุพร


ผลการตรวจค้นพบของกลาง ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนยาวลูกซองยี่ห้อ STEVENS MODEL 94 หมายเลขประจำปืน P579455 จำนวน 1 กระบอก 2.อาวุธปืนยาวลูกซอง ยี่ห้อ Dumoulin จำนวน 1 กระบอก 3.อาวุธปืนยาวอัดลม ไม่มียี่ห้อ จำนวน 1 กระบอก 4.อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก 5.อาวุธปืนยาวลูกกรด ลำกล้องเดี่ยว ขนาด .22 ยี่ห้อ ซีแซด  6.โครงปืนยาวไม้ จำนวน 1 อัน 7.ลำกล้องปืนยาว จำนวน 1 อัน 8.ลำกล้องปืนยาวจำนวน 1 อัน 9.เลื่อยโซ่ยนต์ความยาว 22 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง 10.เลื่อยโซ่ยนต์ยี่ห้อไม่มีชื่อเขียนกำกับกับไว้ไม่ทราบรุ่น ขนาดกำลังเครื่องจักรกลเลอะเลือนอ่านค่าไม่ได้ ติดตั้งแผ่นบังคับโซ่ยนต์ความยาว 20 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และ 11.เลื่อยโซ่ยนต์ดัดแปลง 1,050 วัตต์ ยี่ห้อ Makita ติดตั้งแผ่นบังคับโซ่ยนต์ความยาว 28 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง


โดยนายจตุพรรับว่า ของกลางตามรายการที่ 1 เป็นของตนจริงโดยซื้อมาจากเพื่อนเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาในราคาประมาณ 24,000 บาทและไม่มีใบอนุญาตให้ครอบครอง ของกลางรายการที่ 2 เป็นของลูกค้าที่ส่งมาทำสีพานท้ายปืนใหม่ และไม่มีใบอนุญาตให้ครอบครอง ของกลางรายการที่ 3 รับว่าเป็นของตนจริงโดยได้รับมาจากตา และไม่มีใบอนุญาตให้ครอบครอง ของกลางรายการที่ 4 รับว่าเป็นของตนจริงซึ่งกำลังจะทำหน้าไม้ใช้สำหรับใช้ยิงปลา ของกลางรายการที่ 5 นายจตุพรรับว่าซื้อมาจากนายณรงค์ฤทธิ์ ปินตาบูรณ์ เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ในราคาประมาณ 42,000 บาท และไม่ได้ขอใบอนุญาตครอบครอง ของกลางรายการที่ 6-8 รับว่าเป็นของตนจริง ซึ่งจะทำเป็นหน้าไม้ใช้สำหรับใช้ยิงปลา ของกลางตามรายการที่ 9 - 11 รับว่าเป็นของตนจริง ซึ่งตนมีอาชีพรับจ้างตัดไม้ และไม่ได้ขออนุญาตครอบครองเลื่อยโซ่ยนต์จากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่าเลื่อยโซ่ยนต์ตามรายการของกลางดังกล่าว ติดตั้งแผ่นบังคับโซ่ยนต์มีความยาวเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะเลื่อยโซ่ยนต์และส่วนประกอบของเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545


ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าได้รับจ้างดัดแปลงแต่งตัวกระบอกปืนให้กับผู้ที่มาว่าจ้าง โดยโฆษณาผ่านทางสื่อออนไลน์ มีทั้งปืนที่ถูกต้องตามกฏหมายและไม่ถูกต้อง เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ผู้ต้องหาให้การว่าซื้อส่วนประกอบปืนมาทางออนไลน์ และยังพบว่าผู้ต้องหาสะสมชุดลายพรางทหารเป็นจำนวนมาก สอบถามแล้วรับว่าตนเป็นคนชอบสะสมอาวุธปืน และรับจ้างตกแต่งพันท้ายปืนให้กับกลุ่มลูกค้า เหตุที่มีชุดทหารเยอะ เพราะว่าเป็นความชอบส่วนตัว ชอบสะสม ชอบเข้าป่า ล่าสัตว์


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ได้แก่ “ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 และ “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ทำการจับกุมตัว และนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


ด้าน พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4  ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมทางอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมในสังคมสูงขึ้น จึงขอความร่วมมือจากประชาชนหากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเถื่อนโดยตรง หรือโดยทางสื่อออนไลน์  สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1441 เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ผ่านช่องทางออนไลน์ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป