ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานีและนายภาณุมาศ จิตรวศิลกุล เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ๊อ้อย อายุ 64 ปี เจ้าของโรงงานกระดาษพันบุหรี่และผลิตยาเส้น ร้องขอความเป็นธรรมหลังจากถูกสามีชื่อ เฮีย ป อายุ 61 ปี สามีที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายไล่ออกจากบ้านต้องหนีตายไปอยู่บ้านเช่า และสามีคนนี้ยังฮุบโรงงานที่พากันก่อร่างตัวตั้งแต่งงานมาตั้งแต่ปี 2528 จนถึงตอนนี้ก็ 40 ปี ความรักต้องพังทลายเพราะสามีไปมีผู้หญิงใหม่และพาเข้าโรงงาน หาเรื่องทะเลาะและเคยทำร้ายลูกๆ ทั้ง 3 คน ตอนนี้ต้องหนีออกมาอยู่บ้านเช่า และทำเรื่องฟ้องหย่า อยากให้ทรัพย์สินโรงงานที่เป็นสินสมรสตกมาเป็นของลูกๆ บ้าง แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว พร้อมกับคลิปวีดีโอที่น้องเฟิร์นลูกสาวคนเล็กถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไปมีเรื่องมีราวกับหญิงสาวที่คาดว่าจะเป็นเมียน้อยอีกคนของคุณพ่อ พ่อเลยโมโหทำร้ายร่างกายจนหัวโน แถมยังไม่พอพ่อขับรถแบ๊คโฮเล็กมาพังบ้าน เนื่องจากไม่พอใจลูกสาวที่ไปต่อว่าหญิงคนสนิทพร้อมบอกลูกสาวว่า กูสร้างได้ก็ทำลายได้ และมีภาพบ้านที่ถูกรถแบ๊คโฮพังทำลายจนเป็นรู

เจ๊อ้อย เปิดเผยว่า แต่ก่อนตนเองทำงานอยุ่ที่รัฐวิสาหกิจฯ มีชื่อ คบกับสามีชื่อเฮีย ป คบกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 ประมาณปี 2533 ได้จจดทะเบียนสมรส  เราหวังเป็นครอบครัวที่อบอุ่น จากนั้นตนเองมีแนวคิดหาทำธุรกิจเพิ่มเพื่อสร้างครอบครัว จึงได้นำเงินโบนัสที่ได้จากการทำงานและเงินเก็บหอมรอมริบทำโรงงานเกี่ยวกับกระดาษพันยาเส้นและยาเส้นยี่ห้อหนึ่ง ทำมาเรื่อยๆ ธุรกิจไปด้วยดี มีลูกกับเฮีย ป 3 คน ตอนแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ระยะหลังลายผู้ชายสามีก็ออกเขาเริ่มเจ้าชู้ มีผู้หญิงอีกหลายคน ตอนนั้นก็ทำใจคิดว่าเขาจะเปลี่ยนได้เพราะมีลูกแล้ว แต่ก็ยังเหมือนเดิม มาระยะหลังเริ่มหนักขึ้นเอาภรรยาน้อยมาอยู่ในบ้านที่เป็นที่ตั้งโรงงานด้วย ภรรยามีหลายคนด้วย  หนักสุดทำร้ายภรรยาและลูกๆ เหตุไม่พอใจที่ลูกๆ ไปด่าภรรยาของเขาชื่อแหม่ม คนเป็นแม่เสียใจมาก แต่ที่เสียใจหนักคือทรัพย์สินทั้งบ้านและที่ดินที่สร้างมาด้วยกันหลายๆ แปลง ตอนนี้เขาโอนไปให้ลูกนอกสมรสไปเกือบหมดแล้ว คิดเป็นมูลค่าทั้งที่ดินและบ้านในตัวเมืองจ.อุดรธานี คร่าวๆ ประมาณ 100 ล้านบาท

ไม่คิดว่าชีวิตจะเป็นแบบนี้ อุตส่าห์ก่อร่างสร้างตัวมาสู้ชีวิตมาด้วยกัน หวังจะให้ลูกๆ สืบทอดงานต่อกับพ่อและแม่ บั้นปลายชีวิตครอบครัวมีความสุข แต่ตอนนี้ถูกไล่ออกจากบ้านตัวเองต้องหนีออกมาอยู่บ้าน ผัวก็ฮุบโรงงาน ไล่ออกจากบ้าน  เอาเงินจากการธุรกิจไปปรนเปรอภรรยาคนอื่น 40 ปีความรักไม่มีความหมายพังทะลายเลย หัวอกคนเป็นเมียหลวงพูดไปน้ำตาคลอไปและบางทีมีอาการเบลอด้วย

น้องบรุ๊ค (นามสมมติ ) ลูกชาย บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นผมเข้าใจพ่อได้ว่าพ่อเจ้าชู้ แต่ไม่น่าจะมาทำกับแม่ค้ำจุนมาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตคนแรกแบบนี้ เท่าที่ทราบ แม่และพ่อก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกันจนมีธุรกิจเพื่อครอบครัว แต่พ่อดันเจ้าชู้เยอะไปหน่อยเอาทรัพย์สินที่พ่อและแม่ทำมาด้วยกันโอนไปเป็นชื่อของลูกของภรรยานอกสมรสอีกคน และทราบอีกว่าพ่อจดทะเบียนสมรสซ้อนด้วย โดยที่พ่อไปทำเรื่องโอนทรัพย์สินให้ลูกๆ กับภรรยานอกสมรส แม่ไม่รู้เรื่องเลย แต่อ้างว่าหย่ากับภรรยาอีกคน เป็นคนโสดแล้วเอาไปยื่นเจ้าหน้าที่ฯ จนสามารถโอนทรัพย์สินได้เกือบหมด

น้องโบว์ (นามสมมติ) ลูกสาวอีกคน บอกว่า ที่ผ่านมาหนูและน้องคือน้องเฟริ์นถูกพ่อทำร้ายมาตลอด ทั้งทำร้ายร่างกายหาว่าไปหาเรื่องภรรยาคนอื่นของพ่อ เราเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้แม่กำลังฟ้องหย่าและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวแม่ เราอยากให้มีแม่ความสุขในบั้นปลายชีวิต แต่ไม่คิดว่าแม่จะเป็นแบบนี้ ลูกสาวพูดไปก็น้ำตาคลอไป

ลูกๆ ทั้ง 3 คนผสานเสียง บอกอีกว่า เรื่องราวของพ่อมีเยอะ พูดไปก็เหมือนขายพ่อ แต่ตอนนี้เราอยู่ข้างแม่ มีหลายเรื่องหลายราว อีกเรื่องคือพ่อเคยเปย์กับเซลล์ขายรถยนต์ไฟฟ้าเพราะต้องการได้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นภรรยาอีกคน ลงทุนซื้อรถจำได้ว่า 8 คันเพื่อให้สาวคนนั้นได้ยอด สุดท้ายก็ได้มาเป็นภรรยาจนได้บอกตรงๆ ตอนนี้พ่อมีภรรยาไม่ต่ำกว่า 10 คน แต่อยากจะบอกพ่อว่า เห็นใจแม่คนที่เป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่สร้างชีวิตมาด้วยกัน ไม่น่าจะทำแบบนี้ ตอนนี้แม่ทำเรื่องหย่าและยื่นฟ้องศาลเพื่อให้ได้มาทรัพย์สินในสมรสกลับคืนมา พวกเราอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแม่

ขณะที่ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปหา เฮีย ปเพื่อขอไปพูดคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า เฮีย ป รับสาย ผุ้สื่อข่าวถามถึงกรณีกับเจ๊อ้อย เฮีย ป ก็บอกว่า เป็นเรื่องของครอบครัว จากนั้นก็ตัดสายไปทันที