เมื่อเวลา 11.00.น.ของวันที่ 25 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางดอกไม้ วะราหะ อายุ 58 ปี อยู่บ้านป่ากระท้อน เลขที่ 54/1 ม.5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พร้อมเครือญาติของผู้ตายชื่อนายบรรจง เวสสัมเภา อายุ 49 ปี ซึ่งตัวป้าเองเสมือนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย และคนก่อเหตุซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของผู้ตาย ชื่อนายมิว อายุ 17 ปี ประวัติชอบกินน้ำกระท่อมเป็นประจำ

โดยนางดอกไม้ วะราหะ พร้อมลูกชายชื่อนายกฤษฎา คำมีภา ชื่อเล่นแป๊ะ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นญาติทั้ง 2 ฝ่าย พาผู้สื่อข่าวไปยังที่เกิดเหตุ และพาไปชี้จุดที่เกิดเหตุ ก่อนหน้านี้ วันที่ 23 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ตัวป้าเองได้เปิดร้านขายของชำ จังหวะนั้นก็ได้มีผู้ตายได้มานั่งกินนมกล่องอยู่ภายในร้าน สักพักผู้ก่อเหตุหรือหลานคนตาย ก็เข้ามาภายในร้าน แล้วได้ยินเสียงผู้ตายไอ ผู้ก่อเหตุก็ตะโกนถามไปว่าเป็นกวยอะไร แล้วผู้ตายก็ตะโกนกลับมาว่ามึงเป็นอะไรกับกูนักหนาละไอ้มิว จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุก็ปรี่เข้าไปหาผู้ตายพร้อมอาวุธมีด ในมือ นายมิว ผู้ก่อเหตุ วิ่งตามมาได้จ้วงแทงไปที่ลำคอขณะผู้ตายวิ่งหนีจะไปที่หลังครัว

โดยขณะนั้นลูกชายของผู้ตายกำลังทอดไข่อยู่ที่หลังบ้าน เห็นคาตา ว่าผู้ก่อเหตุใช้มีดพับจ้วงแทงที่ลำคอผู้ตายหลายแผล จนเล้มลงลือดไหลนองเต็มพื้น ไม่พอผู้ก่อเหตุได้กระทืบผู้ตายซ้ำ ลูกชายจะวิ่งมาช่วนผู้ตายแต่ไม่ทัน จึงได้รีบได้นำตัวผู้ตายไปที่โรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน และทนบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา พร้อมกับแจ้งจนท.ตำรวจมาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นหลานอายุ 17 ปี ไปดำเนินคดีตามกฏหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุนั้นเคยก่อเหตุแทงคนในหมู่บ้านมาแล้ว จนชาวบ้านนั้นหวาดผวากันหมด

ล่าสุดตนเองและครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ตั้งสวดศพอภิธรรมศพที่วัดเขาพระยาพายเรือ ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จึงอยากขอความเป็นธรรมจากพ่อกับแม่ผู้ก่อเหตุ อยากให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ช่วยค่าเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเนื่องจากทางครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้นก็ค่อนข้างยากจน คนตายทั้งคนไม่มีใครออกมารับผิดชอบ และที่สำคัญผู้ก่อเหตุนั้นยังเป็นเยาวชน