วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 23:03 น.

ภูมิภาค

ตำรวจไทย-กัมพูชา บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต ส่งกลับ 119 ผู้ต้องหา!

วันอาทิตย์ ที่ 02 มีนาคม พ.ศ. 2568, 07.25 น.

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ มารับตัวและเข้าดำเนินการในคดีจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งสำคัญสืบเนื่องจากการที่ตำรวจไทยร่วมมือกับตำรวจกัมพูชาบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปตในประเทศกัมพูชา ตำรวจไทย ความร่วมมือพ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ, พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 และตำรวจ ภ.จว.สระแก้ว นำกำลังมาร่วมตรวจรับคนไทยทั้ง 119 คน จากทางการกัมพูชาที่บริเวณ หน้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และคนไทยที่ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมส่งกลับประเทศไทย ผ่านช่องทางด่านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วจับกุมคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในเบื้องต้นมีการส่งกลับจำนวน 119 คน ส่งกลับ

 


นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน หน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว มณฑลทหารบกที่ 19 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆโดยบูรณาการการทำงานร่วมกันในการคัดกรองและคัดแยกผู้ที่ถูกส่งตัวกลับจากประเทศกัมพูชา ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ เพื่อการคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือ NRM (National Referral Mechanism)คุ้มครองผู้เสียหาย NRM

 


โดยใช้สโมสรมณฑลทหารบกที่ 19 ค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ เป็นสถานที่คัดกรอง ซึ่งผู้ที่ถูกส่งกลับทั้งหมดจะถูกสอบข้อเท็จจริง เพื่อคัดกรอง หากพบว่ามีข้อบ่งชี้ว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยถูกหลอก ถูกบังคับ ถูกทำร้ายเพื่อบังคับให้ทำงาน หรือถูกแสวงหาประโยชน์ เจ้าหน้าที่จะได้นำเข้าคุ้มครอง ณ ศูนย์คัดกรองกลไกการส่งต่อระดับชาติ จังหวัดสระแก้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการการคุ้มครองและการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปค้ามนุษย์ ความยุติธรรม และหากพบว่าใครที่มีคดีหรือมีหลักฐานการกระทำความผิด เช่น เปิดบัญชีม้า หรือเดินทางเข้า-ออก หลายครั้ง และเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปสอบสวน สืบสวน เพื่อดำเนินคดีและขยายผลในทางคดี โดยมีตำรวจจาก กองบังคับการปราบปราม กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เข้าร่วมสอบสวนด้วยสอบสวน ปราบปราม

 

 

จากข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ ทราบว่า ยังมีคนไทยจำนวนมากที่อาจจะถูกส่งกลับอีก ซึ่งในส่วนของจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามนโยบายของทางรัฐบาลต่อไป เตรียมความพร้อมนโยบายรัฐบาลหลังรับตัวคนไทยทั้ง 119 คนจากกัมพูชาแล้ว เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว ได้นำคนไทยทั้ง 119 คนมาทำขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ก่อนจะนำตัวขึ้นรถบัสทหาร จากกองกำลังบูรพาจำนวน 2 คัน จาก ตชด.12 จำนวน 1 คัน มารับตัวคนไทยทั้ง 119 คนไปส่งที่ศูนย์คัดกรอง สโมสรณ์ มทบ.19 (ค่ายสุรสิงหนาท) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูล จากเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว พบว่าในคนไทยจำนวน 119 คนมีผู้ที่มีหมายจับจำนวน 7 รายรวม 15 หมายจับ

 


พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คนไทยทั้ง 119 คนที่เราตรวจรับมาจากกัมพูชาจะต้องมีการคัดกรองและสอบอย่างเข้มข้น เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นล็อตใหญ่อาจมีการพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราจะฟันไม่เลี้ยงและจะดำเนินคดีข้อหาหนักอาชญากรรมข้ามชาติ อั่งยี่ซ่องโจร เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อไม่ให้กลับไปหลอกคนไทยได้อีก ส่วนทางการกัมพูชา ส่งตัวคนไทย 119 คน ซึ่งถูกจับกุมจากขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ในเมืองปอยปอต เพราะกัมพูชาสอบสวนเบื้องต้นแล้วว่าคนไทยทั้ง 119 คน ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต โดยมีคนจีนเป็นหัวหน้าใหญ่ และคนไทยทุกคนไม่ได้มีการถูกกักขังใดๆ ดังนั้น จึงไม่ใช่ผู้ที่ถูกหลอกหรือตกเป็นเหยื่อ ดังนั้น จากข้อมูลของทางการกัมพูชา เราสามารถแจ้งข้อหาคนไทยได้หมดทั้ง 119 คน โดยแยกเป็นชาย 60 คน หญิง 59 คน

หน้าแรก » ภูมิภาค