วันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวเดินทางถึงท่าอากาศยานนครพนม พร้อมกับภริยา น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย/โฆษกมหาดไทย เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) รวมถึงการขับเคลื่อนงานตามนโยบายเน้นหนัก 5 ด้าน ในพื้นที่ จ.นครพนม และ จ.บึงกาฬ ตลอดจนติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ (Landmark) เพื่อรองรับการเปิดประตูสู่อินโดจีนหลังสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) คาดแล้วเสร็จในปี 68 นี้ เป็นการส่งเสริมระบบขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของทั้งสองประเทศในเวทีโลก

การเดินทางปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ มี นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายแพทย์อลงกต มณีกาศ สส.นครพนม เขต 3 พรรคภูมิใจไทย นายชูกัน กุลวงษา สส.นครพนม เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายก อบจ.นครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานในพื้นที่ให้การต้อนรับ

โดยคณะได้ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บ้านแพง จ.นครพนม ติดตามแนวทางป้องกันไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นPM2.5 ส่วนทางด้านมาตรการรองรับสถานการณ์ไฟป่าของทางอุทยานฯ ซึ่งได้เตรียมการไว้ 3 แนวทาง คือ 1.ประชาสัมพันธ์เฝ้าระวังไฟป่าให้กับประชาชนรอบแนวเขตอุทยานฯ 2.ลาดตระเวนตรวจหาและตรวจปราบปรามการลักลอบเผาป่า และ 3.จัดตั้งจุดสกัดกลางเขาเพื่อความรวดเร็วในการเข้าพื้นที่ดับไฟป่า

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2552 เป็นลำดับที่ 117 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 31,250 ไร่ (50 ตารางกิโลเมตร) ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ นครพนม และ บึงกาฬ มีลักษณะเป็นภูเขาเรียงซ้อนกันตามแนวแม่น้ำโขง สลับด้วยเทือกเขาขนาดเล็กหลายลูกซับซ้อนกัน สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาหินทราย แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ หมวดหินโคราช หมวดหินภูพาน และหมวดหินภูกระดึง

นอกจากนี้ยังมีหินลักษณะคล้ายหัวและเกล็ดพญานาค ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือถ้ำนาคาอยู่ฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ และ ถ้ำนาคีอยู่ฝั่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม และที่สำคัญบนยอดภูลังกามีบ่อชุบตัวพญานาคี มีความเชื่อว่าผู้ใดได้ชำระล้างร่างกายจากบ่อน้ำนี้ จะชะล้างสิ่งไม่ดีออกจากตัว เกิดความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ในแต่ละปีจึงมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชำระล้างกันเป็นจำนวนมาก