ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ว่าที่ร้อยตรี กฤษณ์ชาณัฏ  กุลรัชชหิรัญ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเลย ได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่พร้อมทั้งระดมความคิดเห็นจากคณะกรรมการเพื่อจัดทำสรุป Year Plan หรือ แผนการดำเนินงานของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเลย ตลอดทั้งปี 2568 และ 2569 โดยในการประชุมมีคณะกรรทการบริหารสมาคมเข้าร่วมประชุมมากกว่า 25 คน ได้ระดมความคิดเห็นกันจากคณะกรรมการจากหลายอำเภอของจังหวัดเลย โดยในการประชุมครั้งนี้นอกจากเป็นการจัดทำแผนงานรายปีของสมาคมธุนรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเลย ทางนายกสามคมฯ ยังได้จัดกิจกรรม Famtrip สำรวจเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวผ่านด่านบ้านคกไผ่ เพื่อสร้างความสามัคคีในองค์กรก่อนที่คณะกรรมการบริหารสมาคมจะได้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม หนึ่งในหัวข้อที่หารือที่สำคัญก็คือ การผลักดันให้มีการเปิดด่านชายแดนบ้านคกไผ่ให้มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว เพราะเส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางใหม่ที่จะเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเวียงจันทน์ วังเวียง หรือ หลวงพระบาง เพราะในลาวมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวปีละกว่า 3,000,000 คน หากด่านชายแดนนี้เปิดเต็มรูปแบบเมื่อไหร่ จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเลยเพิ่มมากขึ้นหลายหมื่นคนต่อปี และจะมีเม็ดงินเข้ามาหมุนเวียนในพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งในที่ประชุมมีมติในที่ประชุมให้เสนอไปยังจังหวัดเลยให้รีบเร่งผลักดันให้มีการเปิดด่านโดยเร่งด่วน เพราะปัจจุบันนี้

ว่าที่ร้อยตรี กฤษณ์ชาณัฏ  กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบัน ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเลยได้รับการประสานงานจากภาคีการท่องเที่ยวทาง สปป.ลาว ให้เร่งเปิดด่าน สากลไทยที่บ้านคกไผ่ -ด่านบ้านวัง เมืองหมื่น แขวงเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ให้มีความพร้อม เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้เดินทางเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัด้ลยได้โดยเร็ว ในส่วนของแหล่งเที่ยวชุมชนต่างๆ ผู้ประกอบการที่พัก ร้านอาหาร มี่เป็นสมาชิกสมาคมฯ นั้น ขณะนี้มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยว 100%  แต่ก็มีความกังวลหากมีการเปิดด่านสากลล้าช้านักท่องเที่ยวอาจเปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง จึงอยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งจัดการด่านบ้านคกไผ่ให้มีตวามพร้อมโดยเร็ว ซึ่งทางสมาคมฯ จะมีหนังสือนำเรียนไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลยต่อไป

ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ยังได้หารือถึงการจัดกิจกรรมหรือ Event ของแต่ละอำเภอเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง Low season เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมา เพราะจริงๆและด้วยพื้นที่จังหวัดเลยนั้นมีความพร้อมทางด้านทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวเยอะมากๆแต่ยังขาดการบริหารจัดการที่ดีขาดการบูรณาการร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชนเพราะต่างฝ่ายต่างทำตามแผนตัวเองหากมีการหารือร่วมกันแล้วมีการวางแผนจัดกิจกรรมให้เป็นระบบทางสมาคมฯคาดว่านักท่องเที่ยวจะต้องมฝเข้ามาเที่ยวจังหวัดเลยเราได้ตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน