วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:17 น.

ภูมิภาค

แม่ทัพภาคที่ 4 ยกระดับความปลอดภัยเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันพุธ ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568, 11.14 น.

จากหลากหลายเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหาย สร้างความบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบยิงผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส รวมถึงเหตุการณ์ลอบยิงพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอแว้ง และเหตุระเบิดบริเวณแฟลตตำรวจ สถานีตำรวจภูธร โคกเคียน จังหวัดนราธิวาส และล่าสุดกับเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับพี่น้องประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก คือเหตุการณ์ลอบยิงสามเณร ขณะเดินทางเพื่อไปออกบิณฑบาต ในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา จนมรณภาพ

ที่ห้องรับรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เปิดพื้นที่ให้พี่น้องสื่อมวลชนได้เข้าสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นความรุนแรงในห้วงที่ผ่านมา 

เริ่มต้นจากกรณีลอบยิงผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส นายอับดุลรอนิง ลาเต๊ะ อายุ 60 ปี ซึ่งมีกลุ่มขบวนการฝ่ายตรงข้ามพยายามบิดเบือนข้อมูล ให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดที่นำไปสู่การละเมิดกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน หน้าที่หลักของหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ การควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรง พร้อมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำผิด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2568 นั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ทุกเหตุการณ์จะมีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในแต่ละกรณี ล้วนมีเป้าหมายไปยังพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นกรณีลอบยิงอุสตาซ เหตุระเบิดบริเวณสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน หรือการลอบยิงสามเณรระหว่างเดินทางออกไปบิณฑบาต ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างความหวาดกลัวและทำลายความสันติสุขของสังคมในวงกว้าง

สถานการณ์ในขณะนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของฝ่ายตรงข้ามในการยกระดับการก่อเหตุ เพื่อสร้างแรงกดดันและบ่อนทำลายความสันติสุขในพื้นที่ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงขอให้ประชาชนเข้าใจถึงกลไกของขบวนการดังกล่าว และร่วมมือกับภาครัฐในการเฝ้าระวัง และปกป้องชุมชนของตนเองอย่างใกล้ชิด

สุดท้ายนี้ อยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัย สู่การสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
 

หน้าแรก » ภูมิภาค