กรณีน้องภูมิ-เด็กชายภาคภูมิ สุระมาโจ อายุ 11 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กพิเศษออทิสติก สมาธิสั้น พูดไม่ได้แต่หูไม่หนวกเหมือนคนใบ้ อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 3 บ้านโนนสังข์ ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม มีน้ำหนักตัวมากถึง 150 กิโลกรัม เพราะระยะหลังๆประมาณ 2-3 เดือน ได้กินอาหารในปริมาณมาก ทั้งมีพฤติกรรมแปลก ชอบกินดินเป็นอาหาร รูปร่างเริ่มอ้วนจนเสื้อผ้าใส่ไม่ได้ โดยเด็กอาศัยอยู่กับตายาย และมีฐานะยากจน พ่อแม่ไปทำงานอยู่ กทม. ส่งเงินมาให้ตามสภาพเศรษฐกิจ
           

เบื้องต้น อบต.หนองบ่อ ได้นำตัวน้องภูมิไปให้แพทย์ รพ.นาแก ตรวจร่างกาย ไม่พบมีโรคอื่นแทรกซ้อน ยกเว้นตัวเด็กที่ป่วยเป็นออทิสติกแต่กำเนิด ซึ่งแพทย์ต้องการให้นอนโรงพยาล เพื่อสังเกตอาการ แต่ตากับยายเกรงว่าหลานจะร้องไห้รบกวนคนไข้รายอื่น จึงขออนุญาตนำตัวกลับไปดูแลกันที่บ้าน

ล่าสุด วันที่ 26 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามความคืบหน้ากับนายวินัยกร พลราชม อายุ 66 ปี และ นางธนารักษ์ พลราชม อายุ 63 ปี ตายายน้องภูมิ ซึ่งพบตัวน้องอยู่ในสภาพนอนหลับอยู่บนเก้าอี้พลาสติก โดยไม่ได้สวมเสื้อผ้า และมีนายคำใบ จันโทวาท อายุ 50 ปีผู้ใหญ่บ้านโนนสังข์ หมู่ที่ 3 ต.หนองบ่อ แวะมาเยี่ยมเยียนอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับบอกว่าตอนนี้น้องภูมิเริ่มมีผื่นแดงตามข้อพับ เช่นใต้รักแร้และขาพับ จึงแนะนำตายายเวลาหลานหลับให้ยกแขนขึ้น และหมั่นดูไม่ให้น้องนอนงอขา อีกทั้งลูกอัณฑะก็เริ่มบวมแดงแล้วเช่นกัน
           

นายวินัยกรผู้เป็นตา เปิดเผยว่าหลานชายมักจะแอบออกมาเก็บดินตามผนังบ้านกิน ในเวลากลางคืนบ่อยๆ พอกินแล้วก็เดินกลับไปนอนเอง จึงต้องเตรียมข้าวไปไว้ในห้อง เพราะไม่อยากให้หลานออกมาหากินดิน มีปัญหาก็คือเรื่องเงินในการดูแล มีที่นาแค่ 1 ไร่พอได้ปลูกข้าวไว้กิน ด้าน นางธนารักษ์ผู้เป็นยายก็เล่าว่า หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดูแลตลอด แต่น้องไม่ค่อยให้ความร่วมมือ จะร้องไห้งอแงตลอด

หลังจากมีการนำเสนอเรื่องราวออกไป ก็มีผู้ใจบุญติดต่อให้ความช่วยเหลือ ส่วนใหญ่เป็นจำพวกเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่ และมีบางคนแนะนำให้ลงเบอร์โทรศัพท์ผ่านสื่อโซเชียล แต่ตากับยายเกรงว่าอาจจะถูกมิจฉาชีพ อาศัยจังหวะไปหลอกผู้มีความต้องการอยากช่วยเหลือน้อง ได้รับความเดือดร้อน จึงขอให้แจ้งวัตถุประสงค์ไปยัง อบต.หนองบ่อ น่าจะปลอดภัยกว่า