จากกรณี นายโดม จันทร์สุวรรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบการลักลอบทำไม้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 บริเวณศูนย์วิปัสสนาแห่งหนึ่ง พื้นที่บ้านวังขยาย หมู่ 2 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่อุทยานฯเขาแหลม และพบว่าในพื้นที่มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารแบบถาวร 24 หลัง พบเครื่องจักรกล และยานพาหนะสำหรับงานก่อสร้าง 4 คัน ซึ่งถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่านั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 พ.ค.68 นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้เข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างจริงจัง นายโดม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้รายงานเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบมีหญิงสาวอยู่ในพื้นที่ ให้ถ้อยคำว่าเป็นผู้รับจ้างทำงานด้านเอกสารของศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนาฯ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ขอความร่วมมือให้นำตรวจสอบพื้นที่ โดยสมัครใจให้ถ้อยคำ แจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของมูลนิธิแห่งหนึ่ง พร้อมยื่นสำเนาเอกสารเป็นบัญชีมูลนิธิหรือหนังสือให้อำนาจจัดตั้ง เปลี่ยนแปลงมูลนิธิ (แบบ ม.น. 2) แต่ไม่มีเอกสารเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินมาแสดงต่อคณะเจ้าหน้าที่

เมื่อเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่พบต้นไม้ถูกตัดโค่น ตัดทอน และนำมาวางกองรวมไว้บริเวณเดียวกัน 6 ท่อน และอีก 5 ท่อน วางกระจายอยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน และภายในพื้นที่ดังกล่าวพบมีการก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างแบบถาวรหลายรายการ รวมทั้งตรวจพบเครื่องจักรกลสำหรับการก่อสร้างหลายรายการปรากฎรายละเอียด ดังนี้ 1. ไม้แดง จำนวน 7 ท่อน รวม 2.19 ลูกบาศก์เมตร 2. ไม้สมอพิเภก จำนวน 4 ท่อน รวม 2.27 ลูกบาศก์เมตร 3. เลื่อยโซ่ยนต์สีเขียว ขนาดแผ่นบังคับโซ่ 22 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง 4. รถเครน ขนาด 25 ตัน จำนวน 1 คัน 5. รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ติดตั้งเครน จำนวน 1 คัน 6. รถโม่ปูน จำนวน 1 คัน 7. รถแบ๊กโฮ จำนวน 1 คัน

และอาคาร บ้านพัก และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมจำนวน 24 รายการ คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจจับค่าพิกัดรอบแปลงพื้นที่เกิดเหตุ ที่มีการบุกรุกทำประโยชน์ นำค่าพิกัดดังกล่าวมาคำนวณพื้นที่ คิดเป็นเนื้อที่ 15-0-00 ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งสำรวจถือครองตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และไม่ได้มีการแจ้งสำรวจถือครองตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 อีกทั้งไม่อยู่ในโครงการพุทธอุทยานของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้ามาบุกรุกครอบครองพื้นที่ ก่อสร้าง สิ่งปลูกสร้าง ทำไม้หวงห้ามดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ดังนี้

ฐาน ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (1) และมาตรา 41 ฐาน เก็บหา นำออกไป ทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (2) และมาตรา 42 ฐาน ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 ฐาน ทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 และมาตรา 73 ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 69 ฐาน มี ผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อย โซ่ยนต์ ตามพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 และมาตรา 17 ต่อมาหญิงสาว ได้ให้ถ้อยคำเพิ่มเติมว่า การเข้าไปบุกรุกพื้นที่เพื่อก่อสร้างอาคารดังกล่าว มีนายฝ้าย ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง เป็นผู้ควบคุมงาน และมี ผู้จัดการโครงการก่อสร้างดังกล่าว รับว่าจะมาพบเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ก่อนดำเนินการนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดี..