วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:24 น.

ภูมิภาค

“เจ๊แก้ว” หายลึกลับ! ตร.เชื่อยังปลอดภัย-คาดมีปัญหาครอบครัว

วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.49 น.

“เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียนดังหายตัวใส่ทองติดตัว 20 บาท ตร.เชื่อยังปลอดภัยคาดมีปัญหาครอบครัว


สุราษฎร์ธานี- ความคืบหน้าคดีเจ๊แก้ว เจ้าของแผงทุเรียนดังหายตัวปริศนาใส่ทองติดตัว 20 บาท เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ตร.เชื่อยังปลอดภัย ปรากฏภาพวงจรปิดไปคนเดียว คาดมีปัญหาครอบครัว วอนใครพบเห็นหรือเจ๊แก้วทราบข่าวให้ติดต่อกลับ
 
 
จากกรณี น.ส.สุจิตรา กุลจันทร์ อายุ 43 ปี หรือ เจ๊แก้ว อยู่บ้านเลขที่ 108/153 ม.5 ถ.ตลาดล่าง ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของแผงทุเรียนชื่อดังในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า PCX สีฟ้า ทะเบียน 6818 สุราษฎร์ธานี (จำหมวดอักษรไม่ได้) หายตัวไปใส่ทองคำรูปพรรณติดตัวร่วม 20 บาท และเงินสดกว่า 1 แสนบาท เมื่อช่วงเวลา 19.20 น.ของวันที่ 17 พ.ค.68 และนายพงศ์พันธ์ แซ่ตั้น อายุ 44 ปี สามีเจ๊แก้วได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.37 น.วันที่ 18 พ.ค.68 โดยหวั่นจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากเจ๊แก้วใส่ทองติดตัวไปจำนวนมากดังที่ได้นำเสนอข่าวเบื้องต้นไปแล้วนั้น
 

โดยหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และเมื่อวานที่ผ่านมา (19 พ.ค.68 )ตำรวจได้สอบปากคำนายพงศ์พันธ์ แซ่ตั้น อายุ 44 ปี สามีของเจ๊แก้ว ได้ข้อมูลว่า เคยมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องชู้สาว เมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา และเจ๊แก้วได้สูญหายไปประมาณ 10 วัน แต่ได้ติดต่อกับญาติพี่น้องและลูกสาว เจ๊แก้ว เคยบ่นในทำนองตัดพ้อชีวิต ประกอบกับการทำงานที่มีความเหนื่อยล้าสูงทำให้เกิดการพักผ่อนน้อย ต้องตื่นตั้งแต่เวลา 02.00 น.หรือตี 2 ไปที่แผงทุเรียน และกลับเข้าบ้านช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. -20.00 น. (6 โมง หรือ 2 ทุ่ม) ของทุกวัน รวมถึงไม่ได้รับความไว้วางใจจากนายพงศ์พันธ์ (สามี) ซึ่งมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านรวมถึงแผงทุเรียนที่ตลาดโพธิ์หวาย หากสามีไม่พบ เจ๊แก้ว อยู่ในระยะที่กล้องมองเห็นจะมีการโทรติดตามตลอดเวลา เป็นเหตุให้เกิดความไม่สบายใจของ เจ๊แก้ว
 

แต่ครั้งนี้หายไปโดยที่ไม่ได้ติดต่อใคร โดยได้วางโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 เครื่องไว้ในลิ้นชักภายในแผงทุเรียน ล็อคลิ้นชักเอาไว้ โดย เจ๊แก้ว มีกุญแจลิ้นชักดังกล่าวเพียงผู้เดียว ซึ่งญาติได้งัดทำลายลิ้นชักดังกล่าวเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือของ เจ๊แก้ว ออกมาจากลิ้นชักให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว
 
ล่าสุดทางตำรวจได้ภาพกล้องวงจรปิดเห็นเจ๊แก้ว ขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางถนนเลี่ยงเมือง ผ่านสี่แยกบางใหญ่ ไปทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และเชื่อว่าเจ๊แก้ว ยังปลอดภัย
 
 ล่าสุด พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประชุมติดตามเร่งรัดคดี ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัด และสืบสวนเมืองสุราษฎร์ธานี โดยมี พ.ต.อ.ดร.พรณรงค์ การอรชัย ผู้กำกับการ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา พิทักษ์ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
 

โดยภายหลังการประชุม พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้รายละเอียดว่า เบื้องต้นหลังจากที่เจ๊แก้วหายตัวไป ทางตำรวจ ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด แกะรอยเจ๊แก้วทั้งยังเชิญตัวคนใกล้ตัวมาสอบปากคำ ได้ตั้งประเด็นไว้สองสามประเด็น เจ้าหน้าที่ก็ทำงานตามประเด็นที่วางไว้เพื่อที่จะได้คำตอบในทุกประเด็น แต่อย่างไรก็ตามภายหลังจากได้ไล่เช็คกล้องวงจรปิดก็ทำให้มั่นใจว่าเจ๊แก้วยังปลอดภัยดีไม่ได้เกิดเหตุการณ์อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน
 
 
ทั้งนี้อยากเน้นย้ำประชาสัมพันธ์ไปถึงชาวบ้านหากพบเห็นเจ๊แก้วให้ช่วยประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะคนรอบข้างรวมถึงเจ้าหน้าที่ ทุกคนเป็นห่วงในความปลอดภัยและหากเจ๊แก้วสามารถรับรู้ข่าวสารนี้ได้ อยากให้ติดต่อกลับ.

 

หน้าแรก » ภูมิภาค