(พิธีเรียกขวัญกระบือ)“ฮาวปลึงกระแบ๊ย” ชมขบวนแห่รถซาเล้ง ประกวดหุ่นควายจากฟางข้าวหนึ่งเดียวในประเทศไทย นับ30 คัน พร้อมการประกวดร้องเลียนเสียงควาย กองเชียร์เฮลั่นทั้งงาน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ได้เดินทางไปที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านปันรัว ต.ตาเบา อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นหมู่บ้านที่อนุรักษ์พันธุ์กระบือไทย ได้จัดงาน “ฮาวปลึงกระแบ๊ย” (พิธีเรียกขวัญกระบือหรือควาย) ประจำปี2568  พร้อมชมขบวนแห่รถซาเล้ง ประกวดหุ่นควายจากฟางข้าวหนึ่งเดียวในประเทศไทย นับ30 คัน การประกวดร้องเลียนเสียงควาย การแข่งขันส้มตำลีลา ไฮไลท์ของงานที่เรียกเสียงเฮลั่นทั้งงานคือ  การแข่งขันร้องเลียนเสียงควาย และการแข่งขันส้มตำลีลา สร้างเสียงหัวเราะสนุกสนานให้กับกองเชียร์และแขกที่มาร่วมงาน
 

หมู่บ้านปันโร เคยได้รับรางวัลอนุรักษ์และพัฒนาควายแห่งชาติ ชนะเลิศระดับประเทศในปี พ.ศ. 2543จึงเป็นที่มาในการจัดการประกอบพิธีเรียกขวัญกระบือ และมีชื่อเรียกเป็นภาษาถิ่นสุรินทร์ว่า (ฮาวปลึงกระแบ๊ย) พิธีเรียกขวัญกระบือเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรที่สืบทอดปฎิบัติกันมาของชาวบ้านปันรัว ที่สะท้อนถึงชีวิตแบบเกษตรกรรม เนื่องจากสมัยก่อนการทำนาต้องใช้แรงงานกระบือในการไถนา และถือว่าเป็นสัตว์ที่ทำคุณประโยชน์แก่ชาวนาเป็นอันมาก โดยชาวบ้านได้ยึดถือปฎิบัติทำมาทุกปี ก่อนที่จะลงมือทำนา ในงานมีประชาชนในตำบลตาเบามาเข้าร่วมงาน 300 คน โดยมีนายอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ พันจ่าตรี ทวัช พันธุชิน เป็นประธานเปิดงาน ก่อนการเปิดงาน ได้มีขบวนแห่รถซาเล้งนับ 30 คัน แห่เครื่องเซ่นไหว้ปู่ตา และหุ่นควายจากฟางข้าวของทุกหมู่บ้านในตำบลตาเบา จากศาลตายายในหมู่บ้านมายังบริเวณพิธี  พร้อมกับประกอบพิธีเรียกขวัญกระบือ การเซ่นไหว้ ผีปู่ ย่า ผีตา ยาย พร้อมทั้งอาหารคาวหวาน เหล้า น้ำดื่ม ผลไม้

โดยมีหมอพราหมณ์ทำพิธีการเรียกขวัญกระบือ พร้อมทั้งเลี้ยงอาหารแก่กระบือ หลังจากนั้นได้มีการไถนาและหว่านข้าวแบบดั้งเดิมในแปลงสาธิต โดยใช้กระบือในการไถ หลังจากเสร็จพิธีได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสนุกสนานสามัคคีในชุมชนมีการประกวดหุ่นควายจากฟาง  การแข่งขันส้มตำลีลา และที่สร้างเสียงเฮลั่นในงานคือ การประกวดร้องเลียนเสียงควาย โดยมีเกณฑ์ผู้ที่เข้าประกวดจะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในตำบลตาเบาอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ  เกณฑ์การให้คะแนนได้แก่ ทำเสียงเหมือนจริง เทคนิคการขับร้อง จังหวะทำนอง บุคลิก ลีลา อารมณ์ การแต่งการมีผู้สมัครทั้งหมด 12 คน เมื่อถึงเวลาทางคณะกรรมการได้ผู้เข้าแข่งขันทำการร้องเลี่ยนเสียงควาย ตามลำดับ ผู้สมัครแต่ละคนต่างแสดงลีลาความสามารถของตนเองในการประกวดเพื่อเรียกคะแนนจากคณะกรรมการทำเอาคณะกรรมการตัดสินและแขกที่มาร่วมงานต่างก็ฮาลั่นทั้งงานพร้อมการตัดสินของคณะกรรมการ ได้คัดเลือกผู้สมัครจาก 12 คน ให้เหลือ 3 คนสุดท้าย พร้อมกับมอบรางวัล รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 500 บาท รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 400 บาท รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 300 บาท ผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดร้องเลียนเสียงควาย ประจำปี 2568 นายปัญญา คงสืบเสาะ ตัวแทนจากบ้านละเบิก