เวลา 13.00 น.วันที่ 26 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี ความคืบหน้าจากกรณีพบมีการโพสต์ใน Facebook โดยผู้ใช้ชื่อ รู้ทันจีน และ มีการแชร์อย่างกว้างขวางในเครือข่ายภาคประชาสังคม จ.ปราจีนบุรี ที่กำลังต่อต้านการเข้าร่วม EEC.และ  ต้านทุนจีน เป็นคลิปภาพขณะที่โรงงานแห่งหนึ่งกำลังปล่อยควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมระบุข้อความว่า ... ชาวบ้านและลูกเพจร้องเรียนว่า โรงงานตึกสีเหลืองในนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง (คาดว่าเป็นโรงงานน่าจะชื่อ “เชียงเสียน…”) ซึ่งตั้งอยู่สุดซอยแรกหลังจากเข้าประตูนิคม มีการปล่อยควันดำจำนวนมาก จากปล่องโรงงาน จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย หากพบว่าไม่มีระบบบำบัดหรือควบคุมมลพิษอย่างเหมาะสม นิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง 33 ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดไปแล้วก่อนหน้านี้  นั้น

คืบหน้าล่าสุด นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับ นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรี,เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทอง (อบต.) และ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งดูแลนิคมฯ บ่อทอง 33 เข้าตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งตามที่เพจรู้ทันจีนได้โพสต์เผยแพร่   โดยมีเจ้าของชาวจีน,ผู้บริหารชาวจีน และล่ามให้การต้อนรับ  นำชมกระบวนการผลิตคอยชี้แจงอธิบาย

นายชนาธิป กล่าวภายหลังตรวจสอบแล้วเสร็จว่า เบื้องต้นก่อนมาตรวจขอรับทราบข้อเท็จจริงพร้อมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งดูแลนิคมฯ บ่อทอง 33  มาดูแล้วโรงงานนี้  ที่ทำการผลิตแผ่นไม้เยื่อจากต้นไม้ยูคาลิปตัสรีดเป็นแผ่นบาง ๆคล้ายไม้อัดเล็กรับซื้อไม้จากเกษตรกรนำไปผลิตและนำผลผลิตที่ได้ส่งไปโรงงานผลิตไม้อัดอีกทีและส่งออกต่างประเทศด้วย ตามที่เพจรู้ทันจีนเผยแพร่คลิปภาพควันดำลอยขึ้นฟ้า และ ข้อความ  ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นของชาวจีนตั้งในนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง 33 หมู่ 8 ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี   

เบื้องต้นที่ลงไปตรวจสอบได้รับรายงานว่า ในวันที่เกิดเหตุ (23 พ.ค.) ระบบมีปัญหาตัวมอร์เตอร์เสีย เชื้อเพลิงที่เอาไปทำส่งความร้อนไปในระบบคือไม้ยูคาลิปตัสไม้ฟืนเปียก  ประกอบกับระบบตัวมอร์เตอร์ที่ดูดควันมีปัญหา จึงปรากฏภาพควันในวันนั้นเกิดขึ้น จึงได้สั่งการในที่ประชุมมอบหมายให้ทางการนิคมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ซึ่งดูแลนิคมฯ บ่อทอง 33 เข้าไปตรวจสอบโรงงานในรับผิดชอบทั้งหมด  ว่าเป็นไปตามหลักการของการนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่รับผิดชอบเป็นไปตามกฏหมายหรือไม่ ส่วนไหนไม่ตรงให้รับผิดชอบปรับปรุง หรือ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดลอมหรือชาวบ้านหรือไม่ 

เบื้องต้นที่โรงงานที่พบควันตามเพจเผยแพร่นั้น ยังไม่พบควันที่ออกไปเป็นอันตราย ไม่กระทบประชาชน สิ่งแวดล้อมมลภาวะทางอากาศ หรือมีสารเคมีใด ๆ  เป็นเพียงกระบวนการเผาไหม้  ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนให้เร่งรัดแก้ไขให้เสร็จสิ้น และ  ให้การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่รับผิดชอบนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง 33  ทำการตรวจสอบโรงงานทั้งหมดในนิคมฯ บ่อทอง 33 ด้วย  

นายชนาธิปกล่าว กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงงานดังกล่าวนี้  เป็นคนละแห่งกับโรงงานที่ก่อนหน้าเป็นข่าวโด่งดังคือ บริษัท เซียว เซียง นัน เฟอรัส เมทัล จำกัด โรงงานรีไซเคิลโลหะ ที่เพิ่งเกิดเหตุระเบิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ทำให้คนงาน 2 รายเสียชีวิต และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก แต่อยู่ในนิคมเดียวกันคือนิคมบ่อทอง 33                                         

สำหรับในนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง 33 เป็นนิคมฯ เกิดใหม่ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) แต่ที่นิคมฯ บ่อทอง 33 ถือเป็นนิคมฯร่วมที่มีเอกชนเข้ามาเป็นผู้บริหาร  ความเป็นมาของนิคมฯ ที่เริ่มจากการได้สิทธิพิเศษหลายประการในปี 2015 จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่ทำให้สามารถให้สิทธิพิเศษกับผู้ประกอบการต่างชาติได้ ต่อมาในปี 2018 นิคมฯ บ่อทอง 33 ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผ่านการประเมินรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในปี 2019 เริ่มก่อสร้างเมื่อต้นปี 2020 และแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2022 โดยผู้ประกอบการโรงงานในนิคมบ่อทอง 33 ล้วนเป็นชาวจีน