วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช นางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหากรณีโรงงานในพื้นที่หยุดรับซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกร ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชาวสวนปาล์มในหลายอำเภอ โดยเชิญนายสายัณห์ ยุติธรรม อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด สภาเกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

จากสถานการณ์ปัจจุบัน โรงงานในหลายอำเภอของจังหวัดได้หยุดรับซื้อปาล์ม โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง พรหมคีรี ท่าศาลา นบพิตำ สิชล และขนอม เหลือเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่ยังพอรับซื้อ เช่น อ.เชียรใหญ่และหัวไทร แต่ก็จำกัดเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรในพื้นที่อื่นไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตได้

นายสายัณห์ ยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนออกมาเรียกร้องให้โรงงานเปิดรับซื้อปาล์มในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 5 บาท แม้จะมีบางแห่งกลับมาเปิดรับซื้อชั่วคราว แต่ปัจจุบันก็หยุดอีกครั้งอย่างไร้เหตุผล พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่จังหวัดต้องมีมาตรการที่ชัดเจนและมีอำนาจในการจัดการกับโรงงานที่ปฏิเสธรับซื้อปาล์ม

“หากจังหวัดยังไม่ดำเนินการใด ๆ ชาวสวนปาล์มพร้อมขนทะลายปาล์มจำนวน 1-2 ตันต่อรายมาเททิ้งปิดถนนทางเข้าสนามบินนครศรีธรรมราช เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม” นายสายัณห์ กล่าว

ในการประชุม มีการกำหนด 2 มาตรการหลักเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ได้แก่: ขอความร่วมมือจาก 5 โรงงานในพื้นที่ ให้กลับมาเปิดรับซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรในทุกพื้นที่ ไม่จำกัดเฉพาะพื้นที่ใด พร้อมให้พาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามอย่างใกล้ชิด โดยตั้งเป้าให้ภายใน 1-2 วัน โรงงานจะเริ่มรับซื้อปาล์มในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 5 บาท
จัดทำหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กปน.) เพื่อขออำนาจให้จังหวัดและหน่วยงานในระดับจังหวัดสามารถ “ให้คุณให้โทษ” กับโรงงานที่ฝ่าฝืนคำสั่งหรือไม่ให้ความร่วมมือ เช่น การสั่งปิดโรงงานในกรณีจำเป็น

นางประไพ เพชรพงศ์พันธุ์ หนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมกล่าวว่า จากข้อมูล พบว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชมีผลผลิตปาล์มน้ำมันปีละกว่า 2 ล้านตัน ส่งจำหน่ายในจังหวัดเพียง 1 ล้านตัน อีก 1 ล้านตันต้องส่งออกไปยังจังหวัดข้างเคียง ซึ่งการจำกัดพื้นที่รับซื้อ ทำให้เกิดปัญหาการล้นตลาดอย่างหนักในบางอำเภอ

ขณะที่นายสุธีย์ มณีฉาย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดฯ ระบุว่า จังหวัดไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งการหรือบังคับโรงงานให้รับซื้อได้โดยตรง จำเป็นต้องอาศัยอำนาจจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กปน.) เท่านั้น

ทั้งนี้ ทางสภาเกษตรกรจังหวัดได้รับหน้าที่เร่งจัดทำหนังสือถึง กปน. เพื่อขออำนาจดังกล่าวโดยด่วน พร้อมเสนอให้รัฐบาลกำหนดราคาอ้างอิงขั้นต่ำที่กิโลกรัมละ 5 บาท ควบคู่ไปกับการลดราคาปุ๋ยและน้ำมันพืช และให้เงินสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย หากรัฐบาลยังนิ่งเฉย สถานการณ์อาจลุกลามไปสู่การประท้วงขนาดใหญ่ และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในระดับท้องถิ่น นายสายัณห์ย้ำว่า นี่คือ “การต่อสู้เพื่อปากท้องของชาวสวนปาล์ม” และรัฐบาลจำเป็นต้องตอบสนองโดยเร็ว.