วันอังคาร ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568 23:22 น.

ภูมิภาค

บุรีรัมย์ยังสงบ! ปชช.แนวชายแดนไม่อยากให้ขัดแย้งลุกลาม

วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.17 น.

บุรีรัมย์ – แนวชายแดนยังสงบ ชาวบ้านไม่อยากให้ปิดด่าน หวั่นกระทบปากท้อง

วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ยังคงปกติ ประชาชนยังสามารถเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ แม้จะมีกระแสข่าวจากฝ่ายความมั่นคงว่าอาจมีการปิดด่านชายแดนถึง 16 แห่งทั่วประเทศ จากกรณีเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย และมีผู้บาดเจ็บหลายราย

 

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดกระแสตอบโต้ในสื่อสังคมออนไลน์ของกัมพูชา มีการรณรงค์ให้เลิกซื้อสินค้าจากไทยทุกชนิด ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงของไทยมีความกังวลว่าอาจเกิดผลกระทบต่อประชาชนสองฝั่งชายแดน จึงได้มีการหารือเพื่อเตรียมแผนปิดจุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง และจุดผ่อนปรน 10 แห่ง รวมถึงจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวอีก 2 แห่ง ได้แก่

จุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง:
    1    ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ
    2    ช่องจอม จ.สุรินทร์
    3    บ้านคลองลึก จ.สระแก้ว
    4    บ้านแหลม จ.ราชบุรี
    5    บ้านผักกาด จ.ราชบุรี
    6    บ้านหาดเล็ก จ.ตราด
    7    
จุดผ่อนปรน 10 แห่ง:
    1    ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี
    2    บ้านตาพระยา จ.สระแก้ว
    3    บ้านหนองปลือ จ.สระแก้ว
    4    บ้านเขาดิน จ.สระแก้ว
    5    บ้านซับตารี จ.จันทบุรี
    6    บ้านบึงชนังล่าง จ.จันทบุรี
    7    บ้านสวนส้ม จ.จันทบุรี
    8    บ้านหมื่นด่าน จ.ตราด
    9    บ้านชมง จ.ตราด
    10    ช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์

นอกจากนี้ยังมีจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวที่ช่องทางขึ้นเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ และตาเมืองธม จ.สุรินทร์

 

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบว่าสถานการณ์ยังเป็นปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่หรือการสั่งปิดด่านแต่อย่างใด

นายสำราญ เครือวัลย์ อายุ 70 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างแนวชายแดน เผยว่า ปัจจุบันยังคงมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าจากฝั่งไทยเฉลี่ยมากกว่า 1,000 คนต่อสัปดาห์ สินค้ายอดนิยม ได้แก่ ปุ๋ย ยารักษาโรค ของใช้จำเป็น และสินค้าเบ็ดเตล็ด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลบ้านกรวดด้วย

 

 

“ไม่อยากให้มีเรื่องกันเลย เพราะเราก็เหมือนพี่น้องกัน ถ้าปิดด่านจริงจะกระทบแน่นอนทั้งสองฝั่ง ชาวกัมพูชาจะขาดของใช้ที่จำเป็น ส่วนคนไทยอย่างพวกผมก็ไม่มีรายได้ เพราะทุกวันนี้มีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างกว่า 80 คัน รายได้วันละ 200-300 บาท ถ้าปิดด่านก็หมดทางหาเงิน” นายสำราญกล่าว

 

หน้าแรก » ภูมิภาค