เวลา 09.30 น. วันที่ 4 มิ.ย. 68 ที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด มอบหมายให้นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมพิจารณาและทำความเข้าใจผลการคัดเลือกแนวเส้นทาง ที่เหมาะสมฯ งานศึกษาความเหมาะสม ทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยมีนายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (ยุทธศาสตร์และแผน) เป็นประธานร่วมในการเปิดเวทีการประชุมครั้งนี้ โดยมีคณะเจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการร่วมให้ข้อมูล แก่หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน รวมทั้งภาคประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมการประชุม

สำหรับการจัดการประชุมพิจารณาและทำความเข้าใจผลการคัดเลือกแนวเส้นทาง ที่เหมาะสมฯ งานศึกษาความเหมาะสม ทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด ในครั้งนี้ ดำเนินการหลังจากที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในเขตอำเภอเมืองตราด อำเภอแหลมงอบ และเขตอำเภอเกาะช้าง ไปแล้วหลายเวที โดยได้มีการประมวลความคิดเห็นส่วนใหญ่มีความเห็นผลการคัดเลือกแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสมที่สุดจากผลคะแนนการคัดเลือก ผลปรากฏว่าได้มีการเลือกแนวเส้นทางที่ 3 มีผลคะแนนสูงสุด โดยในแนวเส้นทางที่ 3 มีจุดเริ่มต้นจาก ถนน ตร.4006 บริเวณ กม. 2+840 (บ้านธรรมชาติล่าง) อำเภอแหลมงอบ จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการ บนถนน อบจ.ตร.10023 บริเวณ กม. 5 + 300 (บ้านด่านใหม่) อำเภอเกาะช้าง ระยะทาง 5.9 กิโลเมตร มีค่าก่อสร้างอยู่ที่ 10,315 ล้านบาท ในกรณีรูปแบบทั่วไปที่มีเฉพาะช่องจราจรทางรถยนต์ ส่วนในกรณีที่ขอให้มีการเพิ่มช่องจราจรสำหรับรถจักรยานยนต์เพิ่มเติม จะมีมูลค่าก่อสร้าง 13,355 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3,040 ล้านบาท)

นายกาจผจญ กล่าวว่า กทพ.ยืนยันว่า กทพ.มีความตั้งใจที่จะผลักดันสร้างสะพานข้ามเกาะช้าง โดยใช้งบประมาณของกทพ.เอง และต้องการสร้างให้กับจังหวัดตราดอย่างจริงจัง ซึ่งจากผลการศึกษาเพิ่มเติมตามที่ได้นำเสนอไปนั้น เส้นทางที่ 3 ยังมีความเหมาะสม ซึ่งหากชาวตราดไม่ขัดข้องการดำเนินการต่อไปของกทพ.ก็จะนำไปปรับปรุงการออกแบบและนำเสนอบอร์ดของกทพ.เพื่อดำเนินการจัดงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างต่อไป ทั้งนี้ อยากจะฝากพี่น้องชาวตราดไว้ว่าขอให้มั่นใจว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรก และเห็นว่า กทพ.มีความสามารถในการก่อสร้างด้วยงบประมาณของกทพ.เอง และจะดำเนินการให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว ตามที่ท่านผู้ว่าการการท่าพิเศษแห่งประเทศไทยได้รับปากกับทางจังหวัดตราดไว้แล้ว