วันที่ 5 มิถุนายน 2568 พ.ต.ท.ประเสริฐศักดิ์ นวลบัตร สารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้รับแจ้งมีเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองบนชั้นสองของบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 10 เทศบาลตำบลธาตุพนม เมื่อถึงที่เกิดเหตุทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย คือนายปริญ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน โดยญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมไปก่อนหน้านี้แล้ว มีบาดแผลจากคมกระสุนที่ขมับขวา และเนื่องจากเนื้อสมองได้รับการกระทบกระเทือน แพทย์จึงส่งตัวนายปริญไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพนม อาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต

นางจารุวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ผู้มีศักดิ์เป็นป้า เปิดเผยด้วยการตื่นตระหนกตกใจจากเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ผู้ก่อเหตุป่วยเป็นโรคซึมเศร้านานนับสิบปี ชอบขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อีกอย่างพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก จึงอาจเป็นปมปัญหาชีวิตที่สะสมเรื่อยมาจนโต  เพราะเคยบ่นเสมอว่าพ่อทอดทิ้งครอบครัว ไม่เคยมาเหลียวแล หลังเรียนจบก็ไปทำงานในกรุงเทพฯ และได้มีแฟนอยู่กินกัน ช่วงนี้เองโรคซึมเศร้าก็แสดงอาการขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งไปพบแพทย์ยืนยันว่าป่วยซึมเศร้าและไบโพล่าร์ ญาติจึงนำตัวกลับมารักษาที่นครพนม ระยะหลังสุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง ขนาดขี่รถจักรยานยนต์ยังล้ม และบ่นว่าอยากตาย อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่เพิ่มภาระและปัญหาให้แม่กับป้า รวมถึงญาติพี่น้องด้วย

นางจารุวรรณเล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุหลานชายก็พูดขึ้นว่า ไม่อยากอยู่เป็นคนแล้ว อยากตายให้รู้แล้วรู้รอด ยอมรับว่าญาติไม่ได้ใส่ใจ เพราะคำนี้นายปริญพูดประจำจนชิน จากนั้นก็เดินขึ้นบ้าน และเงียบไปประมาณชั่วโมงเศษ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนจึงวิ่งขึ้นไปที่ห้อง พบหลานชายนอนจมกองเลือด แต่ยังมีลมหายใจอยู่ จึงตะโกนเรียกน้องสาวที่ทำงานเป็นพยาบาล เรียกรถกู้ชีพ 1669  นำส่งยังโรงพยาบาล ทั้งนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าหลานจะทำร้ายตัวเอง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ไม่มีใครทราบว่าเอามาจากไหน ส่วนสาเหตุเกิดจากป่วยซึมเศร้าที่สะสมมานานนับสิบปี นางจารุวรรณกล่าวในที่สุด