วันที่ 4 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี  ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเห็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี)ข้ามฝั่งมาหากิน ตัวขนาดใหญ่มีงา บุกเข้าหากินในป่าอ้อยและกำลังยืนกินอ้อยของชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ชาวบ้านจึงแจ้งชุดเฝ้าระวังช้างป่าตำบลลาดตะเคียนออกตรวจสอบในไร่อ้อย พบช้างป่าตัวใหญ่มีงา1ตัวยืนกินอ้อยตั้งแต่เวลา10:00 น.-17:00 น. อย่างต่อเนื่องยาวเพลิดเพลิน ช้างป่าตัวดังกล่าวก็ยังคงวนหากินอยู่ในป่าอ้อย

 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังจุดที่พบเห็นช้างได้พบกับชุดเฝ้าระวังช้างป่าตำบลลาดตะเคียน และ  เขาไม้แก้วจำนวน 10 นายกระจายกำลังเฝ้าระวังช้างป่า เกรงว่าช้างป่าตัวดังกล่าวจะเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน

นายไพรวัลย์ ท่าข้าม ชุดเฝ้าระวังช้างป่าตำบลลาดตะเคียนกล่าวว่า    เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเห็นช้างป่าตัวใหญ่มีงาอยู่ในป่าอ้อยของชาวบ้าน จึงนำกำลังออกมาเฝ้าระวังและขอกำลังเสริมจากชุดจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าตำบลเขาไม้แก้ว

ช้างป่าตัวดังกล่าวมีอาการดุร้าย  เห็นคนเข้าใกล้จะยืนนิ่งหูกางหางชี้งวงม้วนงอและเดินตรงรี่เข้าหา กระทั่ง ช้างป่าได้วิ่งไล่เข้าหานายไพรวัลย์   ซึ่งขณะนั้นนายไพรวัลย์ได้อยู่ใกล้รถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดอยู่บนถนนเตรียมพร้อมจึงสตาร์ทเครื่องรถจักรยานยนต์หนีออกห่าง

และได้วิทยุแจ้งให้จิตอาสาอย่าเข้าใกล้ช้างอาจจะได้รับอันตราย และได้ใช้โดรนกับความร้อนบินสำรวจติดตามช้างแทนเพื่อความปลอดภัย  ซึ่งช้างยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนและเวลา 19.00น.มืดค่ำ   ได้วางแผนว่าจะเฝ้าระวังช้างป่าในรูปแบบใดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ปัญหาช้างป่าที่ออกนอกผืนป่าของ จ.ปราจีนบุรีที่พบมากประกอบด้วย พื้นที่ อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ เป็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) ที่บุกข้ามฝั่งเข้ามาหากินจากเดิมไปแล้วกลับภายหลังพัฒนากลายเป็นประจำถิ่นไม่ยอมกลับถิ่นเดิม และ ช้างป่าพื้นที่ อ.นาดี จากอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก

โดยปัญหาหลักจากจำนวนประชากรช้างป่ามีเพิ่มจำนวนมาก แหล่งอาหารและที่อยู่จำกัดไม่เพียงพอ ช้างป่าจะมาทั้งแยกเดี่ยว มาเป็นโขลงเล็ก – โขลงใหญ่ จนเกิดปัญหาผลกระทบระหว่างคนกับช้างมากมาย อาทิ ช้างป่าถูกรถชนตาย ได้รับบาดเจ็บขณะข้ามถนน ช้างป่าถูกไฟฟ้าช็อต ช้างป่าถูกบ่วงแร้วดัก ถูกยิง พืชไร่ นาข้าวเกษตรกรได้รับความเสียหาย บ้านเรือนทรัพย์สินถูกทำลาย เจ้าหน้าที่ – ผู้คนถูกทำร้ายทั้งเสียชีวิต – บาดเจ็บ หลายฝ่ายพยายามรวมตัวเป็นเครือข่ายผลักดันให้ทุกรัฐบาลแก้ไขให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ยังมีการแก้ไข เป็นรูปธรรม