วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุมทศพรโรงแรมริมปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใย จากกระทรวงสาธารณสุข ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขตสุขภาพที่ 7 จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 นายทินพล ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 6 ร่วมงานและให้การต้อนรับ

นอกจากนี้ยังมีนพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 นพ.ภาคี ทรัพยพิพัฒน์ สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 7 นพ.ทวีรัชต์ ศรีกุลวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น พญ.จารุพรรณ มโนสิทธิศักดิ์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นพ.สุรสิทธิ์ จิตพิทักษ์เลิศ ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น นพ.ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผอ.โรงพยาบาลมหาสารคาม  นพ.สุนทร ธีรพัฒน์พงศ์ ผอ.โรงพยาบาลสิรินธร จ.ขอนแก่น นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บุคลากร เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และอสม. กว่า 1,500 คน เข้าร่วมงาน

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบมอบเครื่องช่วยฟัง 10 เครื่อง แก่ผู้มีปัญหาทางการได้ยิน แว่นตา 100 อัน และมอบเครื่องมือ Health Station แก่ประธาน อสม. 18 อำเภอ เพื่อใช้ในการดูแลประชาชนด้วย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาล ภายใต้แนวคิด “บริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใย” ซึ่งสะท้อนถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างครอบคลุมและต่อเนื่องตลอดช่วงชีวิต ตั้งแต่เด็กแรกเกิด วัยเรียน วัยทำงาน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ที่เป็นปัญหาสุขภาพสำคัญของประเทศ ซึ่งได้มีการถ่ายทอดความรู้การกินแบบนับคาร์บไปสู่ประชาชนทั่วประเทศแล้ว 31.7 ล้านคน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล รวมทั้งลดจำนวนป่วยและลดจำนวนผู้เสียชีวิตในอนาคตได้เป็นจำนวนมาก

ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในส่วน จ.กาฬสินธุ์ อสม. ได้เรียนรู้การนับคาร์บครบทุกคน และถ่ายทอดการนับคาร์บให้กับคนในชุมชนแล้ว 84.65% มีการจัดตั้ง Health Station ในหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีความพร้อม จำนวน 808 แห่ง ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพเบื้องต้นได้สะดวกรวดเร็ว เป็นการยกระดับคุณภาพการบริการสาธารณสุขในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและระบบบริการสุขภาพ และขยายการเรียนรู้นับคาร์บเพื่อปรับพฤติกรรมสุขภาพที่จะนำไปสู่การพัฒนาสุขภาพของประชาชนได้อย่างยั่งยืน