วันพฤหัสบดี ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568 18:34 น.

ภูมิภาค

เปิดตำนาน “ป่าศักดิ์สิทธิ์” มอดไม้หวาดกลัว ชมเสมาหินพันปี ที่ จ.อำนาจเจริญ

วันอังคาร ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.45 น.

โบราณสถานเสมาพันปี ถือว่า อยู่คู่จังหวัดอำนาจเจริญ มานาน และเป็นที่นิยมพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ วันหยุดติดต่อกันหลายวัน จะมากเป็นพิเศษ ที่สำคัญ นักเสี่ยงโชค จะเข้ามาขอโชคลาภ กับ พระประทานพร และที่ผ่านมา สมหวังทุกราย
      

สำหรับ โบราณสถานเสมาพันปี ตั้งอยู่เขตอำเภอลืออำนาจ ห่างจากตัวจังหวัดอำนาจเจริญด้านทิศใต้ไปตามถนนชยางกูร สายหลัก(อำนาจเจริญ- อุบลราชธานี) ประมาณ 20 กิโลเมตร ถึงแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายรอง ลืออำนาจ – พนา เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงตำบลเปือย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้ง เสมาพันปี ทางเข้าจะมีป้ายบอก ซึ่งการเดินทางสะดวกมาก เพราะถนนเข้าไปแบบคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี

 


     

แหล่งโบราณสถานเสมาพันปี สมัยก่อนบริเวณนี้ เป็นป่าทึบที่อุดมสมบูรณ์มาก ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ เพราะหากใครเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า จะมีอันเป็นไปและเสียชีวิตทุกราย คนในพื้นที่จะเกรงกลัวกันมาก เมื่อถึงฤดูทำนาจะเข้าไปกราบไหว้บนบานต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กลางป่า ขอให้ฝนตกดี ข้าวปลาอุดมสมบูรณ์ และในป่าจะมีเต่าใหญ่ เรียกว่า “เต่าเพ็ก” อาศัยอยู่กว่า 100 ตัว แต่ปัจจุบันไม่มีเหลืออยู่แล้ว ซึ่งเต่าพวกนี้ พอตกเย็นจะเข้ามาในหมู่บ้าน ชาวบ้านจะให้ข้าวและกล้วยเป็นอาหารและไม่มีใครกล้าทำร้าย เพราะเชื่อว่าเป็นเต่าปู่ตาเลี้ยงไว้ ใครขโมยไปจะเอามาคืนภายใน 7 วัน โจรผู้ร้ายไม่มี ชาวบ้านอยู่กันสงบสุขดีมาก
     

ชาวตำบลเปือย รักสงบ ชอบเข้าวัดฟังธรรม กลายเป็นหมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ทางอำเภอลืออำนาจให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบและได้รับคำชมเชยมาตลอด และนับว่าเป็นตำบลเก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งเสมาพันปีที่อยู่ในหมู่บ้านจึงเป็นสิ่งยืนยันได้ดีที่สุด
     

ทั้งนี้ เสมาพันปีที่หมู่บ้านมีด้วยกัน 4 แห่ง โดยอยู่ในดอนปู่ตา บนเนื้อที่ 200 ไรทั้งหมด แต่ปัจจุบันถูกชาวบ้านบางคนเข้าไปบุกรุกจนเหลือเนื้อที่เพียง 50 ไร่

 


     

โดยแหล่งที่ 1. เป็นกลุ่มเสมาในเขตวัดโพธิ์  เป็นเสมาแบบศิลา จำนวน 50 ใบ และเนินศาลาสถานที่ กลุ่มเสมาทรายปักอยู่ ชาวบ้าน เรียกว่า “ลานเสมา” แต่ละใบ มีการสลักเป็นรูปหม้อน้ำและคล้ายคลึงกันลวดลายเสากลม ที่ประดับกรอบประตูสมัยก่อนเมืองพระนคร ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 13 หรือ 1,400 ปีมาแล้ว สมัยทวาราวดี ศิลปะขอมแบบไพรกเมง พบเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2532
    

แหล่งที่ 2. เป็นกลุ่มเสมาวัดบ้านไร่ นับว่าเป็นกลุ่มเสมาที่มีความหนาแน่นมากที่สุด มีจำนวนถึง 74 ใบ เป็นกลุ่มเสมาที่ทำด้วยศิลาแลง ไม่มีการสลักลวดลายและมีการสลักฐานบัวคว่ำ บัวหงาย มีสันนูนคล้ายยอดสถูปอยู่ตรงกลาง
     

แหล่งที่ 3. เป็นกลุ่มเสมาหลังโรงเรียนเปือย –หัวดง เป็นเสมาที่ทำด้วยหินทราย ลักษณะใบเสมาเรียบ ไม่มีลวดลาย แต่ตรงกลางเป็นที่เรียวไปถึงยอด มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 – 17
    

แหล่งที่ 4. เป็นกลุ่มเสมาดอนปู่ตา มีอยู่ 50 ใบ มีลักษณะเป็นศิลาทราย แต่ละใบจะมีการแกะสลักเป็นรูปนกแก้ว จึงเรียกว่า “ลานนกแก้ว”
    

สำหรับ พุทธรูปแบบปางสมาธิเก่าแก่ อายุกว่า 200 ปี สมัยทราวดี ประดิษฐานอยู่ภายในเพิงถาวร สมัยก่อนหากปีไหนฝนแล้ง ชาวบ้านจะมาทำพิธีขอฝนจากท่าน กระทั่งทุกวันนี้ ยังมีการทำพิธีขอฝนจากท่านช่วงฤดูทำนาปลูกข้าวเป็นประจำทุกปี จึงถูกเรียกว่า พระประทานฝน  ประทานพร และเป็นที่น่าเสียดาย หลายสิบปีมาแล้ว มีคนใจบาป ลักลอบเข้ามาตัดเอาเศียรพระไป ชาวบ้านจึงต้องทำเศียรขึ้นมาใหม่ทดแทนเศียรเดิมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน และที่ผ่านมา มีผู้คนเข้ามาขอโชคลาภต่างสมหวังได้เลขเด็ด ยิ้มกลับบ้านถ้วนหน้า.

หน้าแรก » ภูมิภาค