ตามกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ  ทำให้ทุกพื้นที่ของภาคเหนือโดยเฉพาะ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดความชุ่มชื้นภายในพื้นดินจนทำให้เชื้อราเกือบทุกประเภทที่หมักโมมอยู่ในดินเกิดแปรสภาพเป็นดอกเห็ดโผล่ขึ้นมาหลายชนิด เช่น  เห็ดถอบ  เห็ดเหลือง เห็ดไข่ห่าน เห็ดนกยุง เห็ดแดง เห็ดหอม เห็ดตับเต่า หรือเห็ดห้า ฯ
    
ชาวบ้านต่างพากันเข้าป่าเพื่อหาเห็ดกันเป็นจำนวนมาก เพื่อนำมาประกอบอาหารมื้อแรกของฤดูฝน พร้อมกับนำมาขายให้กับพ่อค้าจากต่างจังหวัดเช่น  เชียงใหม่  ลำพูน ฯ มารอรับซื้อในราคาที่สวยสุด ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่อำเภอขุนยวมไม่ต่ำกว่าวันละ สามแสนบาท ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปอาชีพหาเห็ดมีรายได้กันอย่างเป็นกอบเป็นกำแต่ละคนไม่ต่ำกว่า วันละ สามพันบาท ถ้าหากรวมกันเป็นกลุ่มจะมีรายได้วันละ สองหมื่นสามพันบาท  ต่ำสุดเก้าพันแปดร้อยบาทต่อวัน
    
สำหรับเห็ดซึ่งเป็นสินค้ายอดฮิต  ได้แก่เห็ดถอบ  หรือเห็ดเปราะ โดยชุดแรกจะมีราคาแพงมากตกอยู่ลิตรละ สองร้อย –- สองร้อยห้าสิบบาท   รองลงมาจะเป็นเห็ดเหลือง  เห็ดไข่ห่าน เห็ดจำพวกนี้จะอยู่ในกิโลละ 150 บาท นางหนึ่งฤทัย  ไพรสันต์สถิต เจ้าของร้านหนึ่งฤทัย ที่รับซื้อเห็ดเพื่อขายต่อให้กับพ่อค้าจากต่างจังหวัดที่มารับซื้ออีกทอดหนึ่งเล่าว่าเฉพาะตัวเองที่รับซื้อเห็ดเฉพาะเห็ดถอบวันหนึ่งต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่าสองแสนบาทเฉพาะรายที่กำลังจะจ่ายเงินก็ปาเข้าไปสองหมื่นสามพันบาทแล้ว ตลอดหนึ่งเดือนคาดว่ามีเม็ดเงินเข้ามาในอำเภอขุนยวมไม่ต่ำกว่า หนึ่งล้านบาท.