ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายฝ่ายหวั่นว่าอาจจะเกิดการสู้รบหรือเกิดสงครามขึ้น และยังมีหลายพื้นที่มีการปรับเปลี่ยนวันเวลาปิด-เปิด ด่านใหม่ ทำให้มีหลายพื้นที่ยังได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะวันที่ 11 มิ.ย. 68 แม้ด่านถาวรช่องสะงำจะเปิด แต่ชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาที่ฝั่งไทย โดยปกติในช่วงที่ยังไม่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งกันระหว่างไทย-กัมพูชา ชาวกัมพูชาจะเดินทางเข้ามากราบไหว้หลวงปู่สรวงในแต่ละวันไม่ขาดสาย เพราะทั้งชาวไทยและกัมพูชาจะนับถือศาสนาพุทธเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจกันทั้ง 2 ประเทศ 

ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เดินไปสำรวจที่บริเวณวัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ติดกับด่านช่องสะงำ ซึ่งเป็นวัดไพรพัฒนาจะเป็นวัดอันดับ 1 ของประเทศที่มีชาวกัมพูชาเข้ามาทำบุญกราบไหว้กันอย่างคึกคัก มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและกัมพูชา และเป็นวัดที่นักท่องเที่ยว จะชอบมาขอโชค กราบไหว้สักการะหลวงปู่สรวงเพื่อขอพรกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต   หลวงปู่สรวง อริยะสงฆ์สองแผ่นดินเป็นชื่อที่ทั้ง 2 ประเทศ เลื่องลือมานาน ตามความเชื่อว่าถ้าใครที่ได้มากรอบไหวก็แล้ว หลวงปู่จะคุ้มครองปกป้องรักษา ที่ด้านในบนมณฑปปราสาทหลวงปู่สรวง โดยพบว่าบรรยากาศด้านในโลงแก้วที่มีสรีระล่างหลวงปู่สรวงที่ไม่เน่าเปื่อยประดิษฐานอยู่ให้ลูกศิษย์หรือประชาชนเข้าไปกราบไหว้บูชา พอมาวันนี้ในบริเวณวัดไพรพัฒนามีแต่คนไทยที่เข้ามาเที่ยว ไร้ซึ่งเงานักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา

นายอิสระ บัวขันธ์ อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวไทย เปิดเผยว่า ตนเป็นคนนครปฐม วันนี้ตนกับคณะทัวร์เดินทางมา 2 รถทัวร์ เพื่อทำบุญถวายต้นเทียนพรรษาตามวัดต่างๆ ตนเลยถือโอกาสมาเที่ยวชมทำบุญที่วัดหลวงปู่สรวง ตนมาครั้งนี้เป็นครั้งแรกตนเคยได้ยินแต่ในข่าวและคนเล่าถึงตำนานหลวงปู่ทรวง ตนเลยยากมาทำบุญและเที่ยวชมสถานที่นี้  จากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งวัดหลวงปู่สรวงถือว่าเป็นสถานที่ใกล้จุดชายแดนไทย-กัมพูชา ตนเห็นแต่ในข่าวพอมาถึงสถานที่จริงตนรู้สึกว่าสถานการณ์ยังคงปกติ และตนก็ไม่ได้กลัว ตนมั่นใจในความปลอดภัย และตนก็มั่นใจในเจ้าหน้าที่ว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์และความปลอดภัยให้กับพวกตนได้ จุดไหนหรือสถานไหนที่เป็นจุดเสี่ยงหรือห้ามเข้าพวกตนก็ไม่ได้ไป ในการเดินทางมาที่วัดหลวงปู่สรวงครั้งนี้พวกตนรู้สึกประทับใจมาก ครั้งหน้าตนจะมาอีกแน่นอน