นครราชสีมา วันนี้( 12 มิถุนายน 2568 ) ที่บ้านเลขที่ 142 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางรังสิยา นุทกิจ ผอ.กองสวัสดิการสังคม และเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม และ หัวหน้าศูนย์ประสานงาน อบจ. ลงพื้นที่ในตัวเมืองนครราชสีมาเพื่อสร้างขวัญให้กำลังใจและร่วมส่งมอบกายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ ภายหลังได้รับการประสานงานจากชาวบ้านในชุมชนหน้าวัดหนองบัวรอง ถ.จอมสุรางค์ยาตร์ เพื่อขอความอนุเคราะห์รถเข็นวิลแชร์ และของขวัญให้แก่คุณยายละม้าย เหรียญประเสริฐ ผู้สูงอายุ อายุ 92 ปี ที่มีภาวะขาทั้ง 2 ข้างข้างอ่อนแรง เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและรู้สึกถึงการมีคุณค่า ลดความเหลี่อมล้ำ ในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างอิสระ โดยมีบุตร 2 คน นายวีรพงศ์ เหรียญประเสริฐ และนายสมชาย เหรียญประเสริฐ ผู้ประสานงานและให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ อบจ.นครราชสีมามีการมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยสำหรับคนพิการ ผู้งอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ คนยากคนจนให้กับผู้ที่ต้องการในพื้นที่ต่างๆ ทั่วจังหวัดนครราชสีมา โดยอุปกรณ์ที่มอบให้มีทั้งรถเข็นวิลแชร์, รถเข็นปรับเอนนอน, ไม้ค้ำยัน, และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ศพพ.อบจ.นครราชสีมา) กองสวัสดิการสังคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
 

ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า การดำเนินการส่งมอบรถเข็นวิลแชร์ให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการต่างๆ เราจะดูเป็นรายๆไป และประสานกับ พมจ.นครราชสีมา เพาะเราเองก็อยากให้ผู้ที่ขาดโอกาสได้มีรถเข็นวิลแชร์ไว้ใช้ ซึ่งจากการที่เราได้เดินทางไปครอบคลุมทั้ง 32 อำเภอที่ได้มอบรถเข็นวิลแชร์ และอุปกรณ์อื่นๆแล้วรู้สึกดีใจในเรื่องของการดูแลคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน อันนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆเลย เพราะว่าเราได้ไปเห็นแล้วเราก็มีความสุข ผู้รับก็มีความสุข ผู้ให้ก็มีความสุข ตนเองก็อยากให้คนโคราชมีสขภาพแข็งแรงทุกคน ซึ่งตนก็ขอเชิญชวนพี่น้องผู้ใจบุญชาวจ.นครราชสีมาหรือจังหวัดใกล้เคียงถ้าอยากจะมาร่วมบริจาคก็ขอเชิญมาได้ที่กองสวัสดิการและสังคม อบจ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจุบัน อบจ.นครราชสีมา ได้เดินหน้าจัดตั้งศูนย์ซ่อมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ ขณะนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 แห่ง แต่ก็ยังถือว่าไม่เพียงพอในการให้บริการแก่กลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเราคาดว่าในอนาคตจะต้องเพิ่มเติมศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 2 แห่ง เพื่อให้เพียงพอ ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนกลุ่มเป้าหมายใน จ.นครราชสีมา