วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568 22:52 น.

ภูมิภาค

โค้งผีสิงกลายเป็นสวนศิลป์! คนแห่ขอพรไม่ขาดสาย

วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 19.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า บริเวณ "โค้งหัวหรั่ง" บนถนนเพชรเกษมสายพัทลุง–หาดใหญ่ ท้องที่หมู่ 2 ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในโค้งอันตรายที่สุดในอดีต ปัจจุบันถูกพัฒนาให้กลายเป็นสวนศิลป์ที่ศักดิ์สิทธิ์ มีประชาชนแวะเวียนมากราบไหว้และขอพรไม่ขาดสาย

 

ย้อนไปเมื่อราว 10 ปีก่อน จุดดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงฝนตก มีรถเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเดือนละ 2–3 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก จนชาวบ้านขนานนามว่าเป็น “โค้งผีสิง” และ “โค้งปราบเซียน” สร้างความหวาดกลัวแก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมถนน โดยเฉพาะเมื่อฝนตก

 

 

โค้งดังกล่าวมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ชาวบ้านสองข้างทางมักไม่กล้าออกจากบ้านในช่วงฝนตก เพราะเกรงว่ารถจะเสียหลักพุ่งเข้าบ้าน

 

 

กระทั่งในปี 2561 กรมทางหลวงจังหวัดพัทลุงได้เวนคืนที่ดินและสร้างถนนใหม่ให้เป็นทางตรงแทนทางโค้งเดิม ทำให้อุบัติเหตุลดลงอย่างชัดเจน จากนั้นได้มีการปรับภูมิทัศน์บริเวณริมถนนให้เป็นสวนสาธารณะ พร้อมประดิษฐานรูปปั้นท่ารำมโนราห์ ความสูงราว 3 เมตร แสดงท่ารำพื้นบ้านภาคใต้ครบทั้ง 12 ท่า ได้แก่ ท่าเทพนม, ท่าพรหมสี่หน้า, ท่าเขาควาย, ท่าพระจันทร์ส่องแสง, ท่าพระรามน้าวศร, ท่าผาหลา, ท่ากินนรเกี่ยวก้าน, ท่าสอดสร้อยมาลา, ท่าจีบพก, ท่าบัวคว่ำบัวหงาย, ท่าชูก้านมาลา และท่าพิสมัยเรียงหมอน

 

 

นอกจากนี้ยังมีรูปปั้น “ตาพรานบุญหน้าแดง” ตัวละครสำคัญจากมโนราห์ และหุ่นตัวตลกจากหนังตะลุง เช่น ไอ้เท่ง และไอ้หนูนุ้ย ประดับอยู่ในบริเวณสวนประมาณ 2 ไร่ ริมถนนสายหลัก

 

 

ผู้คนที่เดินทางผ่านมักบีบแตรขอพรจากรูปปั้นตาพรานบุญ และผู้ที่ประสบความสำเร็จในการบนบาน เช่น สอบเข้ารับราชการได้ หรือมีโชคลาภ มักจะนำพวงมาลัย น้ำแดง หมากพลู ธูปเทียน และประทัดมาจุดแก้บน โดยเฉพาะในวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ จะมีเสียงประทัดดังก้องตลอดวัน โดยบรรยากาศจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงใกล้วันหวยออก

 

 

สำหรับ “ตาพรานบุญ” ถือเป็นครูโนราห์ที่สำคัญ และเป็นตัวตลกในเรื่องมโนราห์ การแสดงของพรานมีลักษณะเฉพาะ อาทิ ย่อตัวรำ หลังแอ่น ยื่นอก รวมถึงการทำท้องป่องไปทางซ้ายหรือขวา สร้างความสนุกสนานแก่ผู้ชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่

จากอดีตอันน่าหวาดหวั่น โค้งหัวหรั่งในวันนี้จึงกลายเป็นจุดแวะพักทางใจของผู้คนทั้งในท้องถิ่นและต่างถิ่นอย่างแท้จริง

 

หน้าแรก » ภูมิภาค