เมื่อเวลา 15.10 น.วันที่ 19 มิ.ย.68  ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีพบโพสต์ในช่อง  YouTube  โดยผู้ใช้ชื่อ Kanpichet Maliket (นายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ อายุ 62 ปี นักแต่งเพลงชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี อดีตผู้อำนวยการสถานศึกษา) ได้ร้องแต่งเพลง –ร้องเพลง  ชื่อเพลง  “อาลัยครูมัท” ( https://youtu.be/FJ2EPwNYRIo?si=jJMrLrFwNyR5gRxr  )พร้อมข้อความระบุไว้ว่า ...  ขอแสดงความไว้อาลัยแด่ครูอนุสรา (ครูมัท) ชวนรัมย์ ไปสู่สุขคติสัมปรายภพด้วยเทอญ …
 
โดยในเนื้อหาของบทเพลงกล่าวถึงครูมัท ที่ได้ ทำหน้าที่ครูการเงินพัสดุนอกเหนือการสอนปกติในหน้าของครูจนมีอาการเครียดและเกิดความเครียดก่อนตัดสินใจผูกคอตายอยากขอให้กรณีดังกล่าวนี้ ให้กระทรงศึกษาธิการอย่าให้เกิดเรื่องดังกล่าวต่อไปแก่ครูทั้งประเทศ ขอให้เป็นรายสุดท้ายของครูที่ใน พ.ร.บ.การศึกษาให้ครูนั้นทำการสอน แก้ไขปัญหาการศึกษา  ไม่ได้ให้ครูมาเป็นครูการเงินพัสดุ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบนายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ อายุ 62 ปี นักแต่งเพลงชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรีที่บ้านพักพร้อมกับขอให้ร้องเพลงดังกล่าวสด ๆสะท้อนสู่สังคม และ กล่าวว่า    จากกรณีที่ครูการเงิน (ครูอนุสรา (ครูมัท) ชวนรัมย์) ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เขียนจดหมายระบายความในใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในโรงเรียนไม่เป็นระบบมีการเบิกเงินก่อนหาหลักฐานมาหักล้างทีหลัง หากเกิดการผิดพลาดก็มาโทษการเงินว่าเป็นผู้กระทำเป็นผู้ปฏิบัติ จึงทำให้เกิดความเครียดก่อนตัดสินใจผูกคอตายจนเป็นข่าวครึกโครม ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอเมื่อเร็วๆ นี้  นั้น

ตนเอง ในฐานะเป็นอดีตครูเก่าเป็นผู้บริหารสถานศึกษามาก่อนเข้าใจในความรู้สึกของครูที่รับงานพิเศษนอกเหนือจากงานการสอน ตามคำสั่งของผู้บริหารที่สั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่คนที่เป็นผู้บริหารจะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์มาใช้ในการบริหาร กับครูในโรงเรียน

จะต้องรู้ภูมิหลังโดยอาจจะศึกษาได้จาก กพ.7 (แฟ้มประวัติ) ก็ได้ว่าคนแต่ละคนจบอะไรมา ถนัดอะไร พูดง่ายๆคือรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งก็ชนะทั้งร้อยครั้ง ไม่จำเป็นต้องไปไล่ถามคุณครูทุกคน เป็นผู้บริหารต้องดูคนให้ออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น ผู้บริหารต้องเป็นผู้สนับสนุนส่งเสริมให้กับครูในทุกๆด้าน

เพราะพรบ.การศึกษาแห่งชาติ 42 มาตรา 4 ครู หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพ ซึ่งมีหน้าที่หลักด้านการเรียนการสอนและส่งเสริมการการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ไม่มีคำใดเลยที่ระบุให้ครูต้องไปทำงานอื่นนอกเหนือจากงานการสอน

ดังนั้นผู้บริหารต้องเข้าในบริบทนี้ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ไปบังคับแต่งตั้งโดยพละการที่ครูไม่เต็มใจ ถึงแม้ว่าพรบ.การศึกษาแห่ง 42 มาตรา 39 ระบุการกระจายงาน4งานคือ งานวิชาการ งานงบประมาณ งานบริหารงานบุคคล และงานบริหารทั่วไป ไปยังเขตพื้นที่และสถานศึกษาโดยตรง ทั้งนี้ให้เป็นไปตามข้อกำหนดในกฏกระทรวงก็ตามที 

ตนเองจึงได้เขียนบทเพลงสะท้อนภาพให้เห็นว่างานทุกงานให้โรงเรียน มีงานงบประมาณเท่านั้นที่ขาข้างหนึ่งเข้าไปอยู่ในคุก ซึ่งงานการเงินและงานพัสดุก็อยู่ในงานงบประมาณนี้ด้วย จึงอยากเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งงบประมาณในการจ้างครูในรูปแบบพนักงานราชหรือเป็นข้าราชการเลย ที่จบด้านการเงินการบัญชีโดยตรงมาทำงานแทนคุณครูในโรงเรียนเลย จึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด

ขอให้คุณครูมัท เป็นคนสุดท้ายที่สูญเสียไปในครั้งนี้ คนๆหนึ่งเรียนครูจบมาก็ต้องการจะมาเป็นครูสอนนักเรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข เป็นแม่พิมพ์ที่ดีของประเทศชาติ สร้างความภาคภูมิใจให้กับพ่อแม่ญาติพี่น้องสามีภรรยา ครูก็ต้องมีความสุขในการทำงานด้วย จึงจะทำให้คุณภาพการศึกษาเกิดขึ้นในแต่ละโรงเรียน จึงขอฝากผู้บริหารรุ่นน้องๆตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมองเห็นความสำคัญของครูผู้น้อยด้วย ตามที่ผมได้เขียนบรรยายไว้ในบทเพลงด้วยครับ