วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:59 น.

ภูมิภาค

“หลวงตาสุจ”ลั่นไม่กลับไทย “ฮุนมาเนต”โพสต์ยินดีต้อนรับ

วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 13.03 น.

อำเภอพลับพลาชัย / หลวงตาสุจ พระนักเทศน์อีสานใต้ ที่ประกาศทางโซเชียลจะไม่กลับประเทศไทย ถ้าถูกจับกลับก็จะผูกคอตายในแผ่นดินเขมร จนกระทั่ง ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีเขมร เคลื่อนไหว โพสต์ยินดีต้อนรับ "หลวงตาสุจ" ชาวบ้านบุรีรัมย์เดือดด่าสวนหลวงตาสุจแบบไม่ให้ค่า

 


วันที่ 20 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากก่อนหน้านี้ พระมหานรินธร ปสนฺโน หรือหลวงตาสุจ อายุ 60 ปี พระนักเทศน์สายฮาชื่อดังแห่งอีสานใต้ ซึ่งตอนนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าโคกคฤห์ ตำบลป่าชัน อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ไลฟ์สดผ่านเฟสต์บุ๊คของตัวเอง ด้วยการด่าชาวจังหวัดสุรินทร์เป็นภาษาท้องถิ่น(เขมร)แปลเป็นภาษาไทยได้ใจความว่า

 

 
“อาตมา พูดภาษาเขมรสุรินทร์ อาตมา ไม่ใช่เผ่าพันธุ์สุรินทร์ อาตมา เกรียดนักไอ้พวกเผ่าพันธุ์สุรินทร์ มีปัญหา ตรงปราสาทตาเมือนธม ยิงเลย ยิงให้สุรินทร์แตกกระจายให้หมด คนสุรินทร์ตายหมด อาตมาสบายใจอาตมาไม่มีจิตใจให้เผ่าสุรินทร์อาตมา ไม่เอาด้วยกับพวกเผ่าสุรินทร์ แพราะอาตมาไม่ใช่คนสุรินทร์ อาตมาคบบุรีรัมย์ โอ...คนเขมร คอมเมนต์ มาเยอะเลย ชื่ออะไร ต่อชื่อ อะไร ปัญหาเรื่องหลวงตา โอ ประโคนชัยอันดับ 1 เลย ปัญหาเรื่องหลวงตา มันดังมาจาก อ.ประโคนชัย อ.พลับพลาชัย อ.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ อ.ห้วยราช มีมาทุกอาทิตย์ ปีที่แล้วตอนที่หลวงตาอยู่ที่ประเทศอเมริกา มีคนแพคข่าวหลวงตาสุจมาให้ดู ว่าถูกไล่ลงจากทำมาดูที่ประโคนชัย เออกูก็อยู่ของกูที่อเมริกา แต่โดนไล่ลงที่นั้น”

 


ในเวลาต่อมาชาวจังหวัดสุรินทร์และชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ต่างไม่พอใจที่พระสุจ ใช้วาจาที่ไม่สุภาพและดูเหมือนจะไปเข้าข้างฝั่งรัฐบาลกัมพูชา มากกว่าประเทศไทย ทั้งบ้านเกิดของหลวงตาสุจ อยู่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ผ่านมาของหลวงตาสุจ เอาสิ่งของที่คนไทยบริจาคไปมอบให้ชาวกัมพูชา เป็นประจำ

 


หลวงตาสุจ ยังไม่หยุด ไลฟ์สดอีกครั้งคราวนี้ประกาศกร้าวเป็นภาษาเขมรเช่นเดิมแปลเป็นไทยแล้ว มีใจความว่า “อาตมาไม่อยากกลับไปเหยียบผืนแผ่นดินประเทศไทยแล้ว อาตมาจะอยู่ที่กัมพูชา ขอความกรุณา รัฐบาลกัมพูชา อย่าจับอาตมากลับส่งประเทศไทย ถ้าจะจับส่งอาตมาส่งประเทศไทย อาตมาขอผูกคอตายหน้าลานพระ ขอตายในแผ่นดินกัมพูชา” 

 


จนกระทั่งในเวลาต่อมา ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย แชร์คลิปของหลวงตาสุจ ลงเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความแปลเป็นภาษาไทยว่า”ตอบสนองต่อคําขอของสาธุคุณหลวงพ่อสุจ ในฐานะนายกรัฐมนตรี กัมพูชา และในนามของตนเอง ขอต้อนรับเสด็จ (พ่อสุจ) ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่กับพ่อเท่านั้น แต่หากมีพระผู้เป็นเจ้าหรือเพื่อนชาวเขมรคนใด ที่ถูกเบียดเบียนหรือทําให้อับอายเพราะท่านเป็นเขมร หรือเพราะท่านเป็นพระหรือแสดงความเห็นของท่าน เพื่อปกป้องความยุติธรรม ศักดิ์ศรี และความเป็นธรรมของกัมพูชาในการปกป้องแผ่นดินเกิดของท่าน ข้าพเจ้าขอร้องและเชิญท่านและพี่น้องมาอาศัยในกัมพูชา

 


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าโคกคฤห์ ตำบลป่าชัน อำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ที่หลวงตาสุจ เคยจำวัดอยู่ ปรากฏว่าวัดป่าไม่มีพระจำวัดอยู่แม้แต่รูปเดียว หลังจากก่อนหน้านี้จำวัดอยู่ 1 รูป ส่วนหลังหลวงตาสุจ เดินสายไปต่างประเทศ


นางสายยวน จัดทัน อายุ 63 ปี ชาวบ้านมะมัง หมู่ที่ 1 ต.ป่าชัน ได้ออกมาแสดงท่าทีที่ไม่พอใจหลวงตาสุจอย่างรุนแรง จับใจความได้ว่าให้หลวงตาสุจ ไปอยู่กัมพูชาเลย ไม่ต้องกลับมาอีก ถ้ามาจะเอารองเท้าตบหน้า เพราะไม่สำนึกบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่ชาวบ้านใสบาตรให้ แถมยังเนรคุณประเทศบ้านเกิดอีก

 


ด้านนายอวบ เสาะหาด้าย อายุ 53 ปี สมาชิก อบต. หมู่ที่ 1 บ้านมะมัง ต.ป่าชัน กล่าวว่า หลวงตาสุจ อยู่ฝั่งกัมพูชา ดีแล้วถ้าคิดได้แบบนั้นไม่ต้องกลับมาเมืองไทย ถ้ากลับมาก็ไม่มีใครต้อนรับแล้ว กลับมาทำไมมาได้ก็ไม่ทำให้วัดเจริญได้ ขอให้โชคดี

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค