วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:58 น.

ภูมิภาค

ดราม่า "วัดภูม่านฟ้า" เขมรชี้ลอกอัตลักษณ์ชาติ-ฝ่ายวัดยันเป็นงานศิลป์ไทย

วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.50 น.

ไวยาวัจกร วัดภูม่านฟ้า โต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลปะของกัมพูชา  ลอกเลียนแบบนครวัด ตามที่กล่าวอ้าง การแกะสลักลวดลาย สถาปัตยกรรม เป็นภูมิปัญญาของวัดเอง ตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา


วันที่ 21 มิถุนายน 2568 จากกรณีสื่อในกัมพูชา รายงานว่า ดร.เฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลปะของกัมพูชา ได้ออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อการก่อสร้างวัดภูม่านฟ้า ใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ในประเทศไทย ที่เลียนแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของนครวัด

 


ดร.เฟือง สกุณา เรียกการก่อสร้างวัดดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและจริยธรรมด้านมรดกทางวัฒนธรรมของกัมพูชาอย่างร้ายแรง ซึ่งในระหว่างการประชุมทางเทคนิคครั้งที่ 40 ของคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์นครวัด ที่จัดขึ้นในเสียม ดร.เฟืองได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการก่อสร้าง "สีหนคร" ภายในวัดภูม่านฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

 


"การเลียนแบบแปลนสถาปัตยกรรมนครวัดในการก่อสร้างสีหนคถือเป็นการละเมิดอัตลักษณ์ประจำชาติและจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมของกัมพูชาอย่างโจ่งแจ้ง โดยเธอเสริมว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดพันธกรณีของไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญามรดกโลกของยูเนสโกปี 1972 อย่างร้ายแรง" ดร.เฟือง สกุณา กล่าว 


ดร.เฟือง สกุณา ยังกล่าวต่ออีกว่า นครวัด ซึ่งได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ถือเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของมรดกทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และศิลปะของกัมพูชา เจ้าหน้าที่กัมพูชาถือว่าการลอกเลียนแบบสถาปัตยกรรมของนครวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นการละเมิดคุณค่าสากลและความถูกต้องแท้จริงของนครวัด

 


ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลจาก นายพีระวัฒน์ จันทสิทธิ์  ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของ วัดภูม่านฟ้า ได้กล่าวถึงถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นโดยนายพีระวัฒน์ กล่าวว่า  “วัดภูม่านฟ้า “ เป็นวัดที่สร้างจากความศรัทธาของญาติโยม การแกะสลักลวดลาย สถาปัตยกรรม ศิลปะจะมีลักษณะจะเหมือนกับปราสาทเขาพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย ซึ่งอยุ่ในประเทศไทย เป็นการกล่าวถึงพระธรรมคำสอนของศาสนาพุทธ ภายในวัดมีโบสถ์ ศาลาปฏิบัติธรรม  มีองค์พระพุทธรูป สำหรับให้เคารพบูชา สักการะ เหมือนวัดทั่วไป ลักษณะอาคาร สิ่งก่อสร้างก็ไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากที่อื่น ยืนยันไม่ได้เลียนแบบมาจากทางกัมพูชา


ด้านนางฤทธิ์ชิตา วงศ์กาฬสินธุ์ อายุ 52 ปี ชาว จ นครราชสีมา เป็นอีกคนที่ศรัทธา มาที่วัดหลายครั้งแล้ว บอกว่า มาแล้วจิตใจสงบ ตนเห็นบางคนมาเป็นจิตอาสามาช่วยงานภายในวัด มีแม่ชีมาช่วยแกะสลักลวดลายหิน ตนเองก็ถามว่าได้แบบมาจากไหน ลอกเลียนใครมา แม่ชีก็บอกว่าคิดขึ้นมาและนำมาลอกลายเพื่อแกะสลัก ซึ่งมาจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนา 

 


สำหรับ “วัดภูม่านฟ้า” หรือ “วัดพระพุทธบาทศิลา” ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2562 ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2564 ปัจจุบันมีพระอธิการสมศักดิ์ สังวรจิตโต เป็นเจ้าอาวาส มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ตั้งอยู่ใน ต.บ้านสิงห์  อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์


สิ่งก่อสร้างภายในวัดสร้างขึ้นจากหินทราย โดยมีรูปแบบคล้ายคลึงกับสิ่งก่อสร้างในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งหินซ้อนเป็นชั้นๆ หรือการแกะสลักหินทรายเป็นรูปทรงต่างๆ อาจมองดูคล้ายกับศิลปะจากทางประเทศอินเดีย หรืออาณาจักรขอมโบราณ ซึ่งเจตนาของวัดนั้นมุ่งก่อสร้างเป็นพุทธสถาน แต่สร้างให้มีความสวยงามคล้ายกับสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาทำบุญที่วัด 

 


โดยสิ่งก่อสร้างสำคัญๆ ภายในวัด อาทิ “หลวงปู่หิน” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ศิลปะอินเดีย “พระมหาเจดีย์” สร้างขึ้นจากหินทราย แกะสลักอย่างงดงามด้วยมือ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และยังมีสิ่งก่อสร้างที่ดูคล้ายปราสาทหิน

หน้าแรก » ภูมิภาค