ภูมิภาค
"บุญชำฮะเมือง" สืบสานประเพณีโบราณ สมัยราชอาณาจักล้านช้าง ขจัดสิ่งอัปมงคลบ้านเมืองสงบร่มเย็น
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันที่ 24 มิถุนายน 2568 ตรงกับแรม 14 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเส็ง ภายในบริเวณวัดโอกาส(ศรีบัวบาน) หน้ามณฑปพระติ้ว พระเทียม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาว จ.นครพนม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ได้จัดงานประเพณีบุญเดือน 7 หรือบุญชำฮะเมือง อันเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดมาแต่โบราณ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว รวมทั้งให้บ้านเมืองเกิดความสงบร่มเย็น โดยมีนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รอง ผวจ.นครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และ พระครูกิตติสุตานุยุต รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
นายโชคดี มังคละคีรี รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม กล่าวว่าบุญชำฮะ หรือบุญชำระ หรือบุญเบิกบ้าน เป็นงานบุญเดือน 7 ตามฮีต 12 คอง 14 ของชาวอีสาน แต่ในบางพื้นที่กำหนดจัดในเดือน 6 ซึ่งเป็นประเพณีต่อเนื่องจากการจัดพิธีกรรมเลี้ยงผีปู่ตาตามคติความเชื่อ ทั้งนี้บุญชำฮะเป็นการทำบุญ เพื่อชำระล้างสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เป็นเสนียดจัญไร อันจะทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่บ้านเมือง เป็นการปัดเป่าความชั่วร้ายให้ออกจากหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อขจัดสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายออกไป เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน
โดยพิธีดังกล่าวเริ่มในเวลาบ่ายโมง พระสงฆ์ 4 รูปนั่งสวดประจำทิศ 4 มุมเมือง ตามแนวเขตของเทศบาลเมืองนครพนม คือ ทิศเหนืออยู่ที่ปากทางเข้าบ้านไผ่ล้อม ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม ทิศใต้อยู่ที่ท้ายเมืองหน้าโรงเรียนเทคโนโลยีอินโดจีน ทิศตะวันออกอยู่ติดแม่น้ำโขง หน้าหน้าวัดโอกาส(ศรีบัวบาน) และทิศตะวักตกอยู่เชิงสะพานห้วยฮ่องฮอ เยื้องห้างสรรพสินค้าแม็คโคร
โดยสมมุติตำแหน่งสำคัญในระบบการปกครองโบราณ สมัยราชอาณาจักรล้านช้าง คือ ราชครู-พระครูกิตติสุตานุยุต รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ,อุปฮาด-นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม,เมืองซ้าย-นายสฤษดิ์ พิพัฒน์วิไลกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม,เมืองขวา-นายวชิรเชษฐ์ กิตติ์พรศิริกุล รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม,ราชวงศ์-นายอิสระพันธ์ สมัครคดี อัยการจังหวัดนครพนม,กวนขุน-นายพรชัย กุลตั้งวัฒนา ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองนครพนม นายกสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม,ทแกล้ว-พ.ต.อ.อนุสรณ์ มั่งมี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม,ทหาร-พลตรี ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210,หูเมือง-นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม และ ตาเมือง-นายโชคดี มังคละคีรี รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม
ส่วนในปะรำพิธีภายในวัดพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ใหญ่และสืบชะตาเมือง โดยพุทธศาสนิกชนนุ่งขาวห่มขาว นำเทียนขี้ผึ้งขนาดความยาวรอบศีรษะ 1 ,วัดจากคอถึงสะดือ 1 ,และวัดจากข้อมือถึงศอกอีก 1 พร้อมเงิน 4 ตำลึง=16 บาท ดอกไม้ ธูป เทียน ขันน้ำมนต์ ฝ้ายผูกแขน ขันกรวดทรายเข้าร่วมพิธี โดยพราหมณ์ได้จัดเครื่องสืบชะตาเมือง อ่านโองการบวงสรวงเทพาอารักษ์ผู้รักษาเมืองนครพนม
สำหรับบุญชำฮะเมือง หรือบุญชำระเมือง เป็นคติความเชื่อสืบทอดมาแต่สมัยราชอาณาจักรล้านช้าง ว่า เมื่อถึงเดือน 7 ต้องทำบุญชำระจิตใจให้สะอาด เพื่อปัดเป่ารังควาน ขับไล่ความเสนียดจัญไร ภูตผีปีศาจออกจากหมู่บ้าน บางแห่งเรียกบุญเบิกฟ้า บางแห่งก็เรียกบุญบ้าน หรือบางแห่งที่เป็นหมู่บ้านใหญ่อาจแบ่งกันทำเป็นคุ้ม จึงเรียกว่าบุญคุ้ม เป็นต้น
โดยมีเรื่องเล่าในพระธรรมบทว่า เมื่อครั้งเมืองไพศาลีเกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง เพราะฝนแล้ง ทำให้มีสัตว์เลี้ยงและผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ด้วยความหิวโหยและเกิดโรคระบาด ดังนั้นชาวเมืองจึงพากันไปนิมนต์พระพุทธเจ้ามาขจัดปัดเป่า เมื่อพระพุทธองค์ตลอดจนสาวก 500 รูปเสด็จมาถึงก็เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า และได้พัดเอาสิ่งสกปรก อาทิ ซากศพคนและซากสัตว์ต่างๆ ที่ล้มตายหายไปจนหมดสิ้น จากนั้นพระพุทธเจ้าก็ได้นำน้ำมนต์ใส่บาตร ให้พระอานนท์นำไปปะพรมทั่วทั้งพระนคร ทำให้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หายมลายไป
จึงเป็นมูลเหตุสืบต่อกันมาว่าเมื่อถึงเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ชาวไทยอีสานและชาวลาวจะพากันนำเอาดอกไม้ธูปเทียน ขันน้ำ และฝ้ายผูกแขนมารวมกันที่วัด จากนั้นก็นิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ รุ่งเช้าจะร่วมกันทำบุญตักบาตร รับศีลรับพรและปะพรมน้ำมนต์จากพระคุณเจ้า แล้วทุกคนจะเอาขันใส่น้ำมนต์ ฝ้ายผูกแขน รวมกรวดทรายกลับไปยังบ้าน เพื่อปะพรมให้คนในครอบครัว บ้านเรือน รวมทั้งสัตว์เลี้ยง ส่วนฝ้ายผูกแขนก็นำไปให้บุตรหลาน เพื่อใช้เป็นเครื่องรางคอยปกป้องคุ้มครองให้ทุกคนอยู่เย็นเป็นสุข ขณะที่กรวดทรายก็นำไปวางรอบๆ บริเวณบ้านและที่นา เพื่อขับไล่เสนียดจัญไรและสิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้หมดสิ้นไป
อย่างไรก็ตาม จังหวัดทางภาคอีสานบางแห่ง จะทำบุญชำฮะกรณีเกิดฝนแล้งไม่ตกต้องตามฤดูกาล หลังทำบุญนี้แล้วเชื่อว่าจะทำให้ฝนตก จะได้ทำนาและปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร ส่วนเมืองใดที่มีมเหศักดิ์หลักเมือง ก็ทำพิธีเซ่นสรวง หรือหมู่บ้านใดมีผีประจำหมู่บ้าน เรียกว่าผีปู่ตาหรือเจ้าบ้าน ก็จะทำพิธีเลี้ยงผีในเดือน 7 นี้ แล้วนำข้าวปลาอาหารพร้อมสิ่งอื่นๆ ไปเลี้ยงผีประจำไร่นา หรือที่รู้จักกันในชื่อผีตาแฮก
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- ดังเปรี้ยงชั่วข้ามคืน เพลง "นายพลมนต์แคน" ชื่นชมให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 25 มิ.ย. 2568
- แตกตื่นแหลมพรหมเทพ! อีโอดีปิดจุดชมวิวหลังพบวัตถุต้องสงสัย 25 มิ.ย. 2568
- ทูลกระหม่อมฯ พระราชทานถ้วยรางวัล วันต่อต้านยาเสพติดโคราช 25 มิ.ย. 2568
- เทศบาลเมืองสวรรคโลก เปิดกิจกรรมโครงการมหาดไทยสีขาวสร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด (Safe Zone No Drugs) 25 มิ.ย. 2568
- ตำรวจท่องเที่ยวจับชาวเกาหลี แอบขายไก่ทอดสูตรต้นตำรับผ่าน Food Truck กลางเมืองเชียงใหม่ 25 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
หนุ่มงมหาหอยผวา! พบลูกระเบิด RPG ในสระน้ำสาธารณะ 18:50 น.
- 2 ส.ส.ปชป.เมืองคอน เดินหน้าวิพากษ์ "อุ๊งอิ้ง" ขาดวุฒิภาวะผู้นำ ชี้ไม่เหมาะนำประเทศ 18:43 น.
- คึกคัก! พระถัง-ภูตผี ก่อนเดินทางไปชมพูทวีป แวะมารับนาคก่อนอุปสมบท 10 รูป 18:09 น.
- "กลุ่มปราจีนเข้มแข็ง" คัดค้านสร้างโรงงานจีน ติดบ้านเรือนประชาชนในรัศมี 300 เมตร หวั่นมีมลพิษ-กระทบสิ่งแวดล้อม 18:03 น.
- ยุติธรรมลุยแก้ปัญหาหนี้พื้นที่กาฬสินธุ์ ภายใต้ "มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม" ปีที่ 2 17:47 น.