วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568 18:15 น.

ภูมิภาค

สาววัย 19 ปี ร้อง “ปวีณา” หมอทำคลอดลูกคนแรกเสียชีวิต

วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.58 น.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มิถุนายน 2568 นางอรุณี อายุ 43 ปี พาลูกสาวคือนางสาวอร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เดินทางเข้าร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีลูกสาวของเธอคลอดบุตรคนแรกที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แต่เด็กเสียชีวิตหลังคลอดเพียง 5 วัน สร้างความสะเทือนใจแก่ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง


นางสาวอร เล่าว่า เธอมีอาชีพเป็นพนักงานก่อสร้าง รายได้วันละ 339 บาท ใช้สิทธิประกันสังคมในการฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง โดยไปตามนัดทุกครั้ง แพทย์ระบุว่าแม่และลูกแข็งแรงดี และนัดคลอดวันที่ 22 มิถุนายน แต่เธอเริ่มปวดท้องคลอดกลางดึกของวันที่ 18 มิถุนายน จึงรีบไปโรงพยาบาล พยาบาลตรวจพบว่าปากมดลูกเปิด 2 เซนติเมตร จึงให้นอนรอคลอด
จนเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ปากมดลูกเปิด 4 เซนติเมตร น้ำคร่ำและเลือดเริ่มไหลออกจำนวนมาก เธอร้องขอให้ผ่าคลอดหรือเร่งคลอด แต่พยาบาลให้รอ กระทั่ง 8 โมง ปากมดลูกเปิด 8 เซนติเมตร แต่พยาบาลยังไม่ให้คลอด กลับสั่งให้อั้นและเปลี่ยนท่านอน พร้อมให้ไขว้ขากันไว้ด้านหลัง โดยอ้างว่ายังไม่ถึงเวลา จนเกือบ 9 โมง เด็กจึงคลอดออกมาแต่มีภาวะสำลักขี้เทาและขาดออกซิเจน


แพทย์นำเด็กส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลรัฐแห่งที่ 2 จ.นครปฐม โดยลูกสาวของเธออยู่ในภาวะโคม่า และเสียชีวิตลงในเวลา 10.47 น. วันที่ 23 มิถุนายน แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจาก “ภาวะสำลักขี้เทา” ครอบครัวรู้สึกเสียใจและติดใจการให้บริการของโรงพยาบาลแห่งแรก ที่ปล่อยให้รอนานเกินไป ทั้งที่เด็กมีอาการจะคลอดแล้ว แต่นางสาวอรกลับไม่ได้รับการเร่งคลอดหรือผ่าตัดแต่อย่างใด


แม่ของนางสาวอรกล่าวว่า ลูกสาวตั้งครรภ์ด้วยความหวัง เตรียมของใช้ลูกน้อยไว้ครบถ้วน และดูแลตัวเองอย่างดีตลอด 9 เดือน การสูญเสียนี้ทำให้ครอบครัวเสียใจอย่างยากจะเยียวยา ทั้งหมดหวังว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดกับใครอีก จึงอยากเรียกร้องให้โรงพยาบาลมีความรับผิดชอบ ปรับปรุงมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยมากกว่านี้


ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับเรื่องไว้และเตรียมประสานงานกับนายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลต้นเหตุ


โดยเฉพาะการตรวจสอบว่าเหตุใดเมื่อน้ำคร่ำแตกและมีเลือดออกแล้ว โรงพยาบาลจึงยังไม่รีบทำคลอด รวมถึงต้องสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของทารกอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของนางสาวอร และป้องกันไม่ให้เกิดกรณีลักษณะเดียวกันซ้ำอีกในอนาคต

 

หน้าแรก » ภูมิภาค