เมื่อเวลา16.25 น. วันที่ 27 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากนายเฉลิม เกียรติบรรจง ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญการทางด้านกฎหมายชาวอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีว่า  มีชาวบ้านรวมกลุ่มกันรวมจำนวน 3 ราย เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อในฟาร์มที่เป็นเกษตรกรพื้นบ้านเลี้ยงด้วยทุนตนเองได้เข้ามาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือประสานงานทางด้านกฎหมาย ประกอบด้วย

1.นายสมนึก สุรินทร์ ฟาร์ม ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียหายเป็นเงิน2,517,552บาท (สองล้านแสนหนึ่งหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยห้าสิบบาท) 2.นางสาวหรรษกานต์ ไทยหยวนฟาร์ม  ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 1,651,717 บาท(หนึ่งล้านหกแสนห้าหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยสิบสองบาท) และ 3.นายนิมิต กิตบำรุง นิมิตฟาร์ม ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียหาย เป็นจำนวนเงิน 728,949 บาท (เจ็ดแสนสองหมื่นแปดพันเก้าร้อยสี่สิบเก้าบาท)

โดยทั้งหมดเดินทางมาจาก ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทราพื้นที่ติดต่อกันกับ จ.ปราจีนบุรี ได้ขอให้ช่วยเหลือด้านกฏหมายโดยร้องทุกข์ถึงความเดือดร้อนที่ได้รับสรุปความว่า ...  เมื่อเดือน ก.ย.67 กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวได้ลงทุนเลี้ยงไก่พันธุ์เนื้อในฟาร์มของตนเอง เมื่อครบกำหนดจับขายได้น้ำหนักที่จะต้องนำไปเข้าโรงเชือดได้แล้ว จึงติดต่อประสานกับ คุณหมอโชค  ได้แนะนำให้เกษตรกรนำไก่ที่ได้ขนาดแล้ว ไปส่งโรงเชือดให้กับบริษัทต.โคกปีกฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 14 ก.ย.67 

แต่พอนำไก่ไปส่งแล้ว ทางโรงเชือดได้แจ้งว่าอีก 7 วัน จะจ่ายค่าไก่ให้แก่เกษตรกรโดยผ่านนายสัตวแพทย์โชค แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว เกษตรกรยังไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกัน เมื่อสอบถามกับบุคคลดังกล่าวปรากฏว่าบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ เมื่อได้รับความเดือดร้อนจึงได้พาไปพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปางสีดา ตำบล ท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว พื้นที่ตั้งของโรงเชือด 

ทางพนักงานสอบสวนจึงได้เรียกไก่เกลี่ยแล้ว จึงได้ทำบันทึกตกลงค่าเสียหายและให้ทางเจ้าของโรงเชือด และนายสัตวแพทย์ รับสารภาพหนี้  เมื่อวันที่ 22  ม.ค.68 ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า จะจ่ายเงินค่าไก่ให้แก่เกษตรกร ผู้เสียหายภายในวันที่ 28 ก.พ.68 เมื่อครบกำหนดไม่ได้นำเงินมาจ่าย ทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย กลุ่มชาวบ้านจึงรวมตัวกันพามาพบและขอให้ช่วยเหลือดำเนินการร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านสื่อฯ  และ  ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้เจ้าของโรงเชือดเป็นผู้ตรวจราชการในกรมแห่งหนึ่ง

นางดาว ราษบุรมย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่าเอาไก่ไปส่งโรงเชือดและพวกป้าไม่ได้เงิน บอกว่าโดนยึดบ้านยึดรถหมดแล้ว ความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหน ป้าอยากถามหน่อยซิว่าไงพวกป้าเป็นทุกข์กันหมดแล้วนี่ อย่างนี้แสดงว่าพวกข้าราชการใหญ่มารังแกพวกบ้าใช่ไหม ถือว่านามสกุลดังหรือมารังแกพวกป้าใช่ไหม 

ป้าเป็นหนี้เป็นสินตอนนี้เป็นหนี้สองล้านกว่าบาท ทำไมไม่เห็นใจพวกป้าบ้าง พวกเขาทั้งหมดโกงไปทำไม เอาตังค์มาจ่ายพวกตนเลย อยากบอกถึงพวกสองคนนะ ป้าไม่เอ่ยชื่อหรอกหรอกนะ แต่น่าจะรู้เมื่อเห็นหน้าตาพวกตนรู้แน่นอน เอาเงินพวกตนไปทำไม ขายไก่แล้วเอาเงินพวกตนไปไหน เอามาจ่ายพวกกตนสิ เอากลับมา พวกกตนไปกู้หนี้ยืมสินเขามา เอาโฉนดที่ดินไปจำนองเขาพวกตนโดนยึดไปหมดแล้ว ถ้าพวกตนไม่ได้นะคอยดูจะเอามีดไปตัดคอที่หน้ารัฐสภาเลยคอยดูยายดาวจะไป ตนยอมตายคนเดียว เพื่อที่จะแลกเอาเงินมาให้พวกตน เพื่อจะมีเงินมาให้พวกตนเลี้ยงไก่ต่อ เพราะว่าพวกตนกว่าจะได้มาแต่ละบาทแต่ละสลึงพวกกตนอดหลับอดนอนแค่ไหน เคยเห็นใจพวกตนไหม หรือว่าเป็นข้าราชการและนามสกุลดัง จะมารังแกประชาชนอย่างพวกตนใช่ไหม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมชาวบ้านเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อที่เดือดร้อนขายไก่แล้วไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว  มีมากกว่า 5 รายที่ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรปางสีดา ตำบล ท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว สระแก้วสถานีตำรวจภูธรปางสีดา ตำบล ท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว