“นิติศาสตร์ มข.” จัดประชุมวิชาการระดับชาติ ฉลองครบรอบ 19 ปี ชูบูรณาการกฎหมาย-เทคโนโลยี สร้างความเป็นธรรมอย่างยั่งยืน

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดประชุมวิชาการระดับชาติ ภายใต้หัวข้อ “การบูรณาการเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางสังคมอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากนักวิชาการทั่วประเทศ กว่า 30 ผลงาน ครอบคลุมหลากหลายศาสตร์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 19 ปีแห่งการสถาปนาคณะ ระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุมทองใบ ทองเปาด์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเปิดพื้นที่ทางวิชาการสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิจัย คณาจารย์ นักศึกษา และภาคีเครือข่าย ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุมทองใบ ทองเปาด์ รศ.ดร.วนิดา แสงสารพันธ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม พร้อมกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดประชุมวิชาการ โดย อาจารย์กัญญารัตน์ โคตรภูเขียว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทางกฎหมายและการบริการวิชาการ ในช่วงเช้า มีการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การบูรณาการเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางสังคมอย่างยั่งยืน: ความท้าทายด้านกฎหมาย เทคโนโลยี และนวัตกรรม” โดย ผศ.กิตติบดี ใยพูล คณบดีผู้ก่อตั้งคณะนิติศาสตร์ โดยมี รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและนวัตวณิชย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณบดีจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คณาจารย์ และนักศึกษาเข้าร่วมฟังอย่างคับคั่ง


วันนี้ยังมีการบรรยายในหัวข้อ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางกฎหมาย: เครื่องมือขับเคลื่อนความเป็นธรรมทางสังคมในยุคดิจิทัล” โดย ผศ.ดร.ชัยณรงค์ เหลืองวิลัย คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ อาจารย์ ดร.ศุภรา กรดพันธ์ อาจารย์ประจำสาขาดิจิทัลเกม วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พร้อมทั้งหัวข้อ “เทคโนโลยีกับการพัฒนาที่ยั่งยืน: การขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายใต้กรอบ BCG และ ESG” โดย รศ.วนิดา แสงสารพันธ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, รศ.ดร.ภูมิ มูลศิลป์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ผศ.ดร.อุดมโชค อาษาวิมลกิจ ประธานหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ศาสตราจารย์ ดร.วนิดา จีนศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสศูนย์บริการวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ด้านหัวข้อ “นวัตกรรมทางสังคม กฎหมาย และการก้าวสู่สังคมที่เป็นธรรมและยั่งยืน” ดำเนินการโดย ผศ.สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ ผศ.ดร.ธีทัด ชวิศจินดา รองผู้อำนวยการสำนักวิจัยและอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


รศ.ดร.วนิดา แสงสารพันธ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงความสำคัญของการประชุมว่า “การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ แต่ยังเป็นพื้นที่สื่อสารเชิงนโยบายที่สำคัญ เพื่อเชื่อมโยงศาสตร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และนำไปสู่การออกแบบระบบกฎหมายและนโยบายที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับพลวัตของสังคมไทยและโลกในศตวรรษที่ 21 อย่างยั่งยืน”


โดยเน้นการบูรณาการความรู้ข้ามศาสตร์ เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายของสังคมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องความเป็นธรรมทางสังคม การพัฒนาที่ยั่งยืน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ภายในงาน มีการนำเสนอผลงานวิชาการกว่า 30 ผลงาน ครอบคลุมสาขานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี

กิจกรรมสำคัญในงาน ได้แก่ ปาฐกถาพิเศษ เวทีเสวนาวิชาการ 4 หัวข้อสำคัญ และนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมจากองค์กรเครือข่าย อาทิ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาสิ่งแวดล้อมไทย, สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ, กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม, สมาคมผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่น, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 4 พร้อมกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิจัยระหว่างนักวิจัยและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น


การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางวิชาการและองค์กรพันธมิตร อาทิ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.), สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.), สมาคมสถาบันอุดมศึกษาสิ่งแวดล้อมไทย, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และ International Center for Academic Integrity (ICAI)

ด้าน ผศ.ดร.สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า “ต้องชื่นชมคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่จัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติในครั้งนี้ เพราะหัวข้อมีความสำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคต สะท้อนความสัมพันธ์ทางสังคมที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาเทคโนโลยี และความจำเป็นที่กฎหมายต้องปรับตัว กฎหมายยุคนี้ไม่สามารถเรียนรู้แบบโดดเดี่ยวได้อีกต่อไป แต่ต้องบูรณาการกับศาสตร์อื่น ๆ กฎหมายต้องถูกออกแบบให้ยืดหยุ่น เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่รวดเร็วขึ้น”

ทั้งนี้ ผศ.ดร.สุทธิชัย หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์ต่อวงการวิชาการกฎหมาย และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อนำความรู้ไปพัฒนากฎหมายให้ตอบโจทย์สังคมได้จริง