กรณี นางสาวบุญฑริกา ยงดี อายุ  52 ปี แกนนำกลุ่มกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง บ้านบอน หมู่ 4 ต.คำพี้ อ.นาแก จ.นครพนม ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนาแก จ.นครพนม กล่าวหาผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองโดยตำแหน่ง ว่าตั้งแต่ปี 2563 – 2568 ได้เก็บเงินกู้จากสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน แต่ไม่นำเงินมาชี้แจงงบการเงินกับเจ้าหน้าที่กองทุนฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชน (พช.) คาดมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 250,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ผู้ใหญ่บ้านผู้ถูกกล่าวหาได้ออกมาชี้แจงรายละเอียด โดยกล่าวว่าไม่มีเจตนาสร้างความขัดแย้ง หรือพาดพิงถึงใคร  ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของ พช. (พัฒนาชุมชน) และทางอำเภอนาแกอยู่ ประเด็นแรกคือกรณีอมเงิน 2.4 ล้าน ผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่าเอาไปใช้ส่วนตัว หรือปล่อยเงินกู้นั้นไม่เป็นความจริง ไม่ทราบว่าคนที่ร้องเอาข้อมูลมาจากไหน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว ก็อยู่กับสมาชิกที่กู้ยืมเงินจากกองทุน สำหรับเอกสารที่เขานำมาเสนอนั้น ก็เป็นเอกสารที่ยังไม่อัพเดท ในส่วนของเงินสัจจะที่สมาชิกต้องการถอนคืน มีระเบียบขั้นตอนคือการลาออกจากสมาชิก ต้องแจ้งทราบล่วงหน้า  ซึ่งเงินสัจจะนี้ไม่มีการค้ำประกัน ซึ่งการลาออกต้องตรวจสอบว่า มีการกู้ยืมเงินจากกองทุนหรือไม่ คือต้องไม่มีพันธะใด ๆ เมื่อแจ้งล่วงหน้าแล้วก็จะดำเนินการที่จะเบิกเงินออกมาให้  ที่ยังไม่เบิกคือยังมีสมาชิกที่ส่งเงินไม่ครบ เงินสัจจะก็อยู่ในธนาคาร ส่วนประเด็นอื่น ๆ อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบทาง พช. และอำเภอฯ ซึ่งไม่สามารถนำเสนอให้ได้ และอาจจะกระทบต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในการรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อนำมาเสนอให้กับสมาชิกกองทุนฯทราบ และแก้ไขปัญหาของกองทุนต่อไป ตอนนี้ตนได้รับความเสียหายจากการนำเสนอข้อมูลส่วนหนึ่ง ที่ยังไม่เป็นความจริง

สำหรับกองทุนหมู่บ้าน กล่าวหาว่าไม่ได้นำส่งตั้งแต่ 2563 ความจริงเราส่งจนถึงปี 2564 ซึ่งต่อมาปี 65-67 เราพักหนี้เก็บเฉพาะดอกเบี้ย ซึ่งมีสมาชิกหลายรายที่ยังไม่ได้ส่ง บางคนไม่ส่งทั้งต้นและดอกเป็นเวลา 7-10 ปีก็มี อันนี้ยังเป็นปัญหาของกองทุนหมู่บ้าน และมีการพาดพิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ว่า  ดูถูกชาวบ้านโง่ก็ไม่เป็นความจริง