วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น.วันที่ 18 กรกฎาคม ถึงช่วงเวลา 02.00 น.วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์  พ.ต.อ.วีระ หางนาค  ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.หัสดีวิช ศรีกำพล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ โพธิรุกข์ สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการกวดขันการแข่งรถในทาง

พร้อมจัดกำลังตั้งด่านจุดก้าวสกัดยาเสพติด ประกอบด้วยสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชุดสืบสวน ชุดสายตรวจตำบล ตำรวจทางหลวง และชุดสายตรวจจราจรร่วมกันป้องกันการแข่งรถ ป้องกันการลักลอบ และ กวาดล้างยาเสพติด รวมทั้งการกระทำผิดกฎหมาย ตามแนวนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์

โดยชุดปฏิบัติการช่วงเวลา 01.47 น.วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 นำโดย ร.ต.อ.สันติ พงษ์ปลัด รอง สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจออกกวดขันกลุ่มเด็กแว้น กลุ่มวัยรุ่นมั่วสุม ป้องกันการแข่งรถในทาง การขับขี่รถเสียงดังก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนตามถนน และจุดเสี่ยงต่างๆ สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงสภาพท่อเสียงดัง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และไม่มีคู่มือได้ 3 คัน

นอกจากนี้ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ได้ออกกวดขันการแข่งรถบนถนนในพื้นที่ ต.นาจารย์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน ชุด และชุดปฏิบัติการพิเศษสายตรวจจักรยานยนต์ได้ออกกวดขันการแข่งรถในทาง ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์สามารถยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน จึงนำของกลางรถจักรยานยนต์ทั้ง 5 คันมาดำเนินคดี และนำตัวคนขับขี่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนมาทำประวัติ และแจ้งผู้ปกครองให้ทราบต่อไป

พ.ต.อ.วีระ หางนาค  ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า สำหรับการปล่อยแถวชุดปฏิบัติการกวดขันการแข่งรถในทางและตั้งด่านจุดก้าวสกัดยาเสพติดดังกล่าว เป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เพื่อป้องกันการแข่งรถสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน และป้องกันการลักลอบขนย้าย และกวาดล้างยาเสพติด รวมทั้งการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ

โดยทางสภ.เมืองกาฬสินธุ์ จะดำเนินการตรวจเข้มในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขอฝากถึงพ่อ แม่ และผู้ปกครอง อย่าปล่อยให้ลูกหลาน นำจักรยานยนต์ท่อเสียงดังออกมาขับขี่ซิ่งแข่งกัน โดยเฉพาะในช่วงกลางดึก เพราะนอกจากจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ และอาจเสียชีวิตแล้ว ยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรม ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ากลุ่มวัยรุ่นมีการกระทำผิดแบบซ้ำซาก ถูกจับ และตักเตือนหลายครั้งแล้วแต่ไม่หลาบจำ ผู้ปกครองจะถูกดำเนินคดีด้วย