โครงการธนาคารเตียงผู้ป่วย รถวีลแชร์ วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมฯ เป็นโครงการที่สืบสานจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาส ที่มีปณิธานสงเคราะห์ญาติโยมรอบวัดและผู้ที่ประสบปัญหาในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะผู้ยากไร้ที่ยังต้องการได้รับการช่วยเหลือในการพยุงและประคับประคองชีวิตในยามที่เกิดความยากลำบาก

ล่าสุด หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมฯ ได้นำคณะสงฆ์เจ้าหน้าที่ นำเตียงสำหรับผู้ป่วย และเครื่องยังชีพที่จำเป็น บรรทุกใส่รถซาเล้ง นำไปส่งมอบให้กับ นางอมรรัตน์ มั่นคง อายุ56ปี พนักงานลูกจ้างประจำรถเก็บขยะ ของหน่วยงานแห่งหนึ่ง ซึ่งนอนติดเตียงในบ้านญาติภายในชุนชนบ้านมอญบ้านเลขที่ 120/5 ถ.เทศา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยเป็นผู้ป่วยติดเตียง ด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งนายกฤษดา บุตรชายได้ประสานการขอความช่วยเหลือในการขอรับเตียงสำหรับผู้ป่วย

จากการสอบถาม ทราบว่า นางอมรรัตน์ เป็นพนักงานที่ทำหน้าที่ได้มีความขยันทุ่มเท ซึ่งหลังจากมีอาการป่วย ทำให้เกิดสภาวะขาดรายได้ต้องอาศัยให้ลูกชายมาคอยช่วยดูแลในการหายาและอาหารและช่วยพลิกตัวในช่วงที่ต้องรักษาตัว ซึ่งก่อนหน้าหน้าที่จะเกิดอาการป่วยในช่วงกลางวันกฤษดาจะเป็นผู้คอยดูแลนางอมรรัตน์ มารดา และช่วงเวลากลางคืนจะออกไปทำงานเพื่อหารายได้มาช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัว

หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมฯ กล่าวว่าหลังจากได้รับการประสานขอความช่วยเหลือมาจากครอบครัวของนางอมรรัตน์ ซึ่งได้มีการตรวจสอบประวัติและข้อมูลทราบว่าครอบครัวนี้มีความผูกพันกับวัดไผ่ล้อมมาตั้งแต่รุ่นของหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสซึ่งมีความผูกพันกันระหว่างชุมชนและวัดจึงทราบข้อมูลและรีบเดินทางโดยการนำรถซาเล้งบรรทุกเตียงและเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้โดยถือเป็นพื้นที่ที่ไม่ไกลและทางเข้ามีความคับแคบการ เดินทางมาจึงใช้วิธีการให้เหมาะสมกับพื้นที่และได้ให้กำลังใจรวมถึงมอบปัจจัยช่วยเหลือกับครอบครัวของนางอมรรัตน์ ทันที

"โครงการธนาคารเตียงและรถวีลแชร์สำหรับผู้ป่วยอาตมายังคงขับเคลื่อนและทำหน้าที่ในการสานต่อปณิธานของครูบาอาจารย์ในการช่วยเหลือญาติโยมซึ่งนอกเหนือจากโครงการนี้ยังมีอีกหลายโครงการในการช่วยเหลือสังคมและสงเคราะห์ญาติโยมซึ่งถือเป็นภารกิจนอกเหนือจากการสืบสานพระพุทธศาสนาและเรียนรู้พระธรรมของพระสงฆ์ไผ่ล้อมซึ่ง ยังคงมีกองทัพสายบุญที่ยังคงช่วยเป็นกองกำลังในการส่งต่อกำลังใจและให้ความช่วยเหลือด้วยความเมตตาและยังคงจะมีโครงการเหล่านี้ที่เหมาะสมกับเสนอการบ้านเมืองในการสงเคราะห์ญาติโยมต่อไปเรื่อยเรื่อย" หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย