วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 10:32 น.

ภูมิภาค

นอภ.เหลือทนขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดแกนนำผู้เรียกร้องที่ดินทำกินใส่ร้ายทำให้เสียหาย

วันอังคาร ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 10.02 น.

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.68 นายสุนทร  น้อยราช  กำนันตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมด้วยนายทรงพจน์  จิตเจริญ กำนันตำบลหงส์เจริญ  นายนิรุตต์  มีชั่งทำ  กำนันตำบลท่าข้าม ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) เดินทางเข้าพบนายพิศิษฐ์  ฤทธิพิชัยสงคราม  นายอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา 
        
หลังจากโดนแกนนำที่เรียกตนเองว่ากลุ่มทหารผ่านศึกและราษฎรผู้ขาดแคลนที่ดินทำกินโพสข้อความเผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านสื่อออนไลน์โจมตีใส่ความหลายประการ ทำให้เกิดความเสียหายประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิด และเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ขอให้ย้ายนายอำเภอท่าแซะ
      
โดยมีใจความสาระสำคัญว่า ข้าพเจ้านายประคอง  จิตประสงค์  อายุ 65 ปี ในฐานะตัวแทนกลุ่มทหารผ่านศึกและกลุ่มราษฎรผู้ขาดแคลนที่ดินทำกิน ตามบัญชีรายชื้อที่แนบท้ายข้าพเจ้ากับพวกมีความประสงค์ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ทำการย้ายนายอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เพราะเหตุดังนี้ 1.นายอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ทำการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติรับร่อ-สลุย  อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร บริเวณบริษัทวิจิตรภัณฑ์ ปาล์มออยล์ จำกัด เนื้อที่จำนวนหลายไร่ อันเป้นการกระทำโดยทุจริตผิดกฎหมาย 
         
2.นายอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ละเว้นการจับกุมดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวที่เข้ายึดถือครอบครองบ้านพักคนงานบริษัทวิจิตรภัณฑ์ฯ ออกเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันในป่าสงวนแห่งชาติ  3.นายอำเภอท่าแซะฯ ไม่ดำเนินการจับกุมบริษัท วิจิตรภัณฑ์ฯ ในกรณียึดถือครอบครองป่าสงวนแห่งชาติ รับร่อ-สลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ทำสุสานบรรพบุรุษโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุน” 
       
ซึ่งแกนนำพร้อมด้วยกลุ่มทหารผ่านศึกและราษฎรผู้ขาดแคลนที่ดินทำกินประมาณ 200 คน ได้รวมตัวกันบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดชุมพรเมื่อวันที่ 21 ก.ค.68 โดยแกนนำฯได้ใช้รถบรรทุกเครื่องขยายเสียงกล่าวพาดพิงถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างดุเดือด ก่อนยื่นหนังสือผ่านปลัดจังหวัดชุมพร ส่งมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรต่อไป พิจารณาย้ายนายอำเภอท่าแซะ
        
ด้านนายพิศิษฐ์ฯ นายอำเภอท่าแซะกล่าวว่า  กรรีได้เข้าจับกุมกลุ่มทหารผ่านศึก ผู้ต้องการที่ทำกินอาศัยอยู่ในบริษัทวิจิตรภัณฑ์ฯ โดยอำเภอท่าแซะได้รับการประสานจากสำนักป่าไม้ที่ 11 สุราษฎร์ธานี ร่วมกันตรวจสอบและดำเนินการจับกุมผู้บุกรุก เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปด้วยความอ่อนน้อมละมุนละม่อมแต่เนื่องจากแต่ทางกลุ่มผู้บุกรุกได้มีการขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้ตามยุทธวิธี จึงเรียนผ่านสื่อมวลชนให้ประชาชนได้รับทราบ  ในฐานะเป้นเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครอง กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ.หรือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ให้ความสำคัญกับประชาชนอย่างเท่าเทียมกันทุกฝ่าย
       
ต่อมาทราบว่า กลุ่มทหารผ่านศึกได้มีการโพสผ่านเฟสบุ๊กสื่อโซเชียลต่างๆกล่าวหาว่านายอำเภอท่าแซะ กีดขวางการดำเนินการของกลุ่มฯอย่างต่อเนื่อง ตนเองขอชี้แจงว่า ไม่เคยไปก้าวก่ายยุ่งเกี่ยว เพียงแต่ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่มีผู้โพสหาว่านายอำเภอมีผลประโยชน์ในพื้นที่ ขอยืนยันว่าไม่มี ไม่เกี่ยวข้องใดๆที่กล่าวหาว่าไปบุกรุกที่ป่า แต่หากพบว่ามีสามารถดำเนินการตามหน้าที่ตามอำนาจของกฎหมายได้เลย ซึ่งมีการกล่าวอ้างในส่วนนี้ในฐานะเป็นข้าราชการ ไม่ได้โต้แย้งอะไรเพียงแต่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อไปถ้าเข้าข่ายหมิ่นประมาท
       
สำหรับแรงงานต่างด้าวนั้น ขอเรียนว่าทางอำเภอท่าแซะ ได้บูรณาการร่วมกับ กร.อมน. ตำรวจ แรงงาน ฝ่ายปกครอง จัดหางานจังหวัด เข้าตรวจสอบปรากฏว่ามีบัตรทุกคน หากพบว่าไม่ถูกต้องก็จะจับกุมทันที ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่  และเรื่องสุสานบรรพบุรุษก่อสร้างในพื้นที่ซึ่งตนเห็นอยู่ก่อนแล้วหลังจากย้ายเข้ามาดำรงตำแหน่ง เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามระเบียบทางกฎหมายต่อไป ในฐานะนายอำเภอดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนยึดระเบียบกฎหมายไม่ทำร้ายประชาชน ไม่เห็นแก่พวกพ้อง หรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวใดๆทั้งสิ้น
      
ส่วนนายทรงพจน์  จิตเจริญ  กำนันหงส์เจริญ กล่าวว่า การเข้าจับกุมแกนนำกลุ่มผู้บุกรุกฝ่ายปกครองบูรณาการร่วม ตำรวจ ป่าไม้ ตามภาพคลิปที่ปรากฏขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ จากนั้นมีการกล่าวพาดพิงว่ากำนันเอ กำนันตำบลหงส์เจริญมีแรงงานต่างด้างด้าวเก็บเกี่ยวผลผลิตในบริษัทฯส่งประโยชน์ให้นายอำเภอ ตนขอยืนยันไม่เคยทำ
      
และการกล่าวอ้างพาดพิงถึงนายอำเภอว่ามีสวนทุเรียน มีที่ดิน ภายหลังสอบถามผู้นำทั้ง 14 หมู่บ้านไม่ปรากฏว่านายอำเภอมีที่ดินดังกล่าว วันนี้ในนามชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอท่าแซะ เดินทางมาให้กำลังใจนายอำเภอ
        
สำหรับนายสุนทรฯกำนันตำบลรับร่อ  ออกมากล่าวยืนยันว่า ตนดูแลพื้นที่ทั้งหมด 23 หมู่บ้าน ขอยืนยันว่าไม่มีที่ดินขอนายอำเภอท่าแซะ ตามที่กลุ่มม็อบกล่าวอ้าง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ร่วมกันหลายหน่วยงานออกตรวจตั้งจุดสกัดเฝ้าระวังทั้งกลางวันและกลางคืนพบว่าเหตุการณ์ปกติและรายงานให้นายอำเภอทราบอย่างต่อเนื่อง
         
จากนั้นเวลา 19.22 น. วันเดียวกัน นายพิศิษฐ์ฯ นายอำเภอท่าแซะ มอบอำนาจให้นายสุจินต์  สว่างศรี  ปลัดอำเภอ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ เพื่อนำหลักฐานแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแก่ ผู้ใช้สื่อออนไลน์จำนวน 4 รายชื่อ ได้โพสคลิปผ่านทางเฟสบุ๊ก ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวทำให้นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ ได้รับความเสียหาย และเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด”
 

หน้าแรก » ภูมิภาค