จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยกัมพูชาทั้งในภาคอิสานและภาคตะวันออก โดยเฉพาะในพื้นที่จ.ตราดในเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ที่ตำบลชำราก อ.เมือง จ.ตราด และจังหวัดตราดต้องอพยพประชาชนในพื้นที่ชายแดนเกือบ 5พันคนมาพักพิงในพื้นที่ตัวเมืองตราดและในอำเภอต่างๆนั้น 

น.อ.ภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนตราดตั้งแต่อำเภอบ่อไร่ อ.เมือง และอำเภอคลองใหญ่ยุติแล้ว ไม่มีการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย เป็นไปตามข้อตกลง ซึ่งยอมรับว่าพื้นที่ชายแดนตราดปลอดภัยแล้ว ประชาชนใน 3 อำเภอที่อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยนั้นสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว 

 ขณะที่ ความเคลื่อนไหวในศูนย์พักพิงในแต่ละพื้นที่นั้น กล่าวคือ ที่ศูนย์พักพิงวัดห้วงพัฒนา ที่เป็นชาวบ่อไร่นั้น ทางอำเภอบ่อไร่ได้แจ้งให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับได้แล้ว แต่ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อำเภอบ่อไร่ได้ปฏิบัติ ตามคำแนะนำของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อย่างเคร่งครัด หากเมื่อเกิดเหตุไม่สงบขึ้น เพื่อป้องกันการเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน เนื่องจากสถานการณ์ยังมีความเสี่ยงสูง และขอความร่วมมือทุกท่าน งดโพสต์พิกัด หรือจุดที่เคลื่อนย้าย ไปพักพิง ลงโซเชียล เด็ดขาด 

 ในส่วนพื้นที่ศูนย์พักพิงในพื้นที่อำเภอเมืองตราด 3 แห่งนั้น เนื่องจากทางอำเภอเมืองตราดยังไม่ได้มีการสั่งการอย่างเป็นทางการจึงยังไม่มีการอพยพกลับสู่ภูมิลำเนาอย่างเป็นทางการ โดยจ.ตราดมีการเปิดศูนย์พักพิงรองรับผู้อพยพจำนวนผู้อพยพ 4,494 คน ศูนย์พักพิงเปิด 16 แห่ง แบ่งเป็น อำเภอเมืองตราด 1,231 คน ใช้ศูนย์พักพิง 4 แห่ง อำเภอคลองใหญ่ 141 คน ใช้ศูนย์พักพิง 1 แห่ง และอำเภอบ่อไร่ 3,122 คน ใช้ศูนย์พักพิง 11 แห่ง 

 สำหรับจังหวัดตราดติดชายแดนทางบกติดกับ จังหวัดพระตะบอง จังหวัดโพธิสัตว์ และจังหวัดเกาะกง โดยอำเภอชายแดน ทางบก จำนวน 3 อำเภอ 12 ตำบล 52 หมู่บ้าน,อำเภอเมืองตราด มีพื้นที่ติดชายแดน จำนวน 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน (ทางบก), อำเภอบ่อไร่ มีพื้นที่ติดชายแดน จำนวน 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน (ทางบก) และอำเภอคลองใหญ่ มีพื้นที่ติดชายแดน จำนวน 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน (ทางบก) และตลอดแนวชายแดนมี ประชากร/ครัวเรือน ตามแนวชายแดน ( ประชากร 38,567 คน/ 17,741 ครัวเรือน) อำเภอเมืองตราด จำนวน 10,250 คน / 5,403 ครัวเรือน,อำเภอบ่อไร่ จำนวน 11,524 คน / 5,689 ครัวเรือน,อำเภอคลองใหญ่ จำนวน 16,823 คน / 6,649 ครัวเรือน