อำเภอบ้านกรวด / อดีตรองนายก อนุทิน เดินทางไปตรวจเยี่ยมชายแดนดูความเคลื่อนไหวและการเก็บกู้ระเบิดของเขมรที่ยิงตกลงมาฝั่งไทย เผยคนไทยมีน้ำใจขนสิ่งของบริจาคเป็นจำนวนมาก ชี้หลังวันที่ 4 น่าจะปลอดภัย กรณีที่ดินเขากระโดงนายอนุทินระบุทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมายใครทำอะไรลงไปคอยฟังผลลัพธ์เอาเอง

วันที่ 2 ส.ค.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เดินทางไปตรวจสอบและตรวจเยี่ยมตำรวจชุด EOD ที่กำลังเร่งเก็บกู้ซากลูกจรวด BM 21ที่ทหารฝั่งกัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ของพลเรือนในเขต อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 24-29 ก.ค. ซึ่งยิงเข้ามาในพื้นที่ ฝั่งจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วม 240 ลูก

นายอนุทิน กล่าวหลังตรวจเยี่ยมว่าสถานการณ์การปะทะตามชายแดน เท่าที่ทราบจากนายอำเภอแต่ละพื้นที่ว่าผู้ที่อยู่ในศูนย์อพยพขอให้ประชาชนอยู่ตรงจุดนั้นก่อน ขอให้อยู่ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 4 ไปก่อน

หากถามว่าสถานการณ์การสู้รบดีขึ้นหรือไม่ ถือว่าดีขึ้นการยิงของฝ่ายเขมรไม่มีแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่เฝ้าระวังอีกอย่างหนึ่งคือโดรนปริศนาที่บินว่อนอยู่ในเขตประเทศไทยในตอนนี้ อาจจะบินเข้ามาก่อกวนหรือสอดแนมอะไรต่างๆ ยังไม่มีใครรู้ซึ่งจะต้องรอฝ่ายความมั่นคงก่อน 

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ครั้งที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีการเตรียมการไว้ระดับหนึ่งว่าอาจจะมีการปะทะกันในระดับหนึ่ง จึงได้ทำการสร้างหลุมบังเกอร์ ปรับปรุงหลุมบังเกอร์ให้กับประชาชนโดยเฉพาะโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่องแล้ว 

สำหรับการช่วยเหลือของประชาชนคนไทย ยอมรับว่าสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาเหลือเยอะมาก ตอนนี้ได้ทยอยส่งต่อไปยังศูนย์อพยพอื่น ยอมรับว่าพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นห่วงกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะภาคเอกชนอย่างกัน จอมพลังนำสิ่งของมาบริจาคเป็นจำนวนมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายอนุทิน กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ ได้ออกมาชี้ว่าที่ดินการรถไฟเป็นของรัฐฯและจะสั่งเพิกถอนได้เลยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า

ส่วนตัวคิดว่าได้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้องแล้ว แต่ถ้าวันนี้จะมาพูดถึงเรื่องนี้ก็จะเหมือนเป็นการปกป้องใครหรือไม่ ซึ่งเรามั่นใจว่าสิ่งที่ผู้ที่เกี่ยวข้องทำไป เราทำตามกฎหมาย ตามระเบียบทุกประการเรามั่นใจ ส่วนใครจะทำอะไรนั้นก็ถือว่าเป็นคนละยุคคนละสมัย ใครจะปฏิบัติอย่างไรนั้นจะต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ที่มันจะเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่าเอามาเป็นการเมือง