ยังอยู่ในช่วงวันหยุด “ วันแม่แห่งชาติ”  ขอเชิญชวนไปที่  จังหวัดอำนาจเจริญ ถึงแม้จะเป็นเป็นจังหวัดไม่ใหญ่ ทว่า ยังมีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงาม รอให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปสัมผัส ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับศาสนาเป็นหลักตามแบบฉบับภาคอีสาน จะทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจไปอีกนาน

โดยเริ่มต้นที่สี่แยกไฟแดงใจกลางเมืองอำนาจเจริญ(หอนาฬิกา) ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ มุ่งหน้าทางทิศเหนือถนนชยางกูร(อำนาจ –มุกดาหาร) ระยะทาง 3 กิโลเมตร ก่อนถึงศาลากลาง จ.อำนาจเจริญ ด้านซ้ายมือจะพบเห็นป้ายพุทธอุทยาน ซึ่งภายในประดิษฐานองค์พระมงคลมิ่งเมือง อยู่บนลานหินดาน แบบปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 11 เมตร สูง 20 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวนอกฉาบปูนด้วยกระเบื้องโมเสกสีทอง พุทธลักษณะตามอิทธิพลของศิลปะอินเดียเหนือแคว้นปาละ  ซึ่งได้แผ่อิทธิพลมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เมื่อพุทธศตวรรษที่ 13 -16 ก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2508 เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองอำนาจเจริญ โดยเฉพาะในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 วันมาฆบูชา ชาวอำนาจเจริญจะร่วมกันจัดงานนมัสการพระมงคลมิ่งเมือง เป็นประจำทุกปี

นอกจากนี้ด้านหลังองค์พระมงคลมิ่งเมือง จะเป็นเขาดานพระบาท มีลักษณะเป็นลานหินธรรมชาติ สูงจากพื้นดินเป็นตอนๆเป็นที่ประดิษฐานองค์พระละฮาย 2 องค์ หรือพระขี้ล่าย ภาษาอีสาน แปลว่า ไม่สวยงาม เป็นพระพุทธรูปสลักด้วยหินทราย สีแดง 2 องค์ ยังสลักไม่แล้วเสร็จ ขุดได้จากอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน อยู่ตรงข้าม พระมงคลมิ่งเมือง เมื่อครั้งก่อสร้างอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน  กว่าจะนำขึ้นมาได้ต้องทำพิธีอัญเชิญขึ้นมาอยู่ 3 วัน เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ อายุหลายร้อยปี ซึ่งบรรดานักเสี่ยงโชคศรัทธานับถือมาก

จากนั้นเข้าตัวเมืองอำนาจเจริญ ก่อนถึงไฟแดงใจกลางเมืองอำนาจเจริญควรแวะที่วัดสำราญนิเวศ พระอารามหลวง เพื่อนมัสการพระสังกัจจายน์ ประดิษฐ์อยู่ภายในวิหารสวยงาม ซึ่งพระสังกัจจายน์ หน้าตักกว้าง 6 เมตร สูง 10 เมตร โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวนอกฉาบปูน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีทอง ภายในบรรจุพระเครื่อง โดยรอบจะพบพระสังกัจจายจำลอง จำนวน 84,000 องค์ ทั้งนี้ พระสังกัจจายน์ เป็นพระอรหันต์ผู้มีปัญญาเป็นเลิศ และก่อนจากไปควรแวะชม วังพญานาค ด้านทิศตะวันออกของวัดสำราญด้วย

ส่วนวัดถ้ำแสงเพชร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ห่างตัวเมืองอำนาจเจริญ 15 กิโลเมตร ไปตามถนนอรุณประเสริฐ(สายหลัก) จะพบเห็นป้ายบอกทางเข้าและเข้าถนนสายรองอีก 3 กิโลเมตร จะมองเห็นเจดีย์สีทองคล้ายเจดีย์ จ.นครปฐม ตั้งอยู่บนยอดเขา เด่นสวยงามมาก ท่ามกลางแมกไม้ป่าไม้นาๆพันธุ์ขึ้นอยู่โดยรอบ

เมื่อขับรถถึงยอดภูเขาขาม ด้วยทางขึ้นถนนลางยางสะดวกปลอดภัย เพราะมีป้ายบอกการขับขี่ขึ้นเขาเป็นระยะๆจะพบเห็น มหาวิหาร หรือ ศาลาพันห้อง ด้านล่างจะทำเป็นที่กักเก็บน้ำฝน เพื่อไม่ให้ขาดแคลนน้ำ ตามด้วยพระพุทธรูปปางไสยาสและเจดีย์ สูงประมาณ 20 เมตร ภายในมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่ชา ภูริโต และภาพวาดบนฝาผนังหลวงปู่ชา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ และได้ศึกษาวัตรปฏิบัติที่ดีงามเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่

จากนั้น ลัดเลาะไปตามทางเดินแคบๆท่ามกลางป่าไม้หนาแน่นปกคลุมและสายลมพัดกระทบกายตลอดเวลา ขับกล่อมบรรเลงด้วยเสียงนกกา จักจั่นเรไร อย่างเพลิดเพลิน ราว 700 เมตรจากยอดเขาจะเป็นที่ตั้งถ้ำแสงเพชร ประดิษฐานพระพุทธรูป ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งกษัตริย์ประเทศลาวทำสงครามและรบแพ้จึงได้พามเหสี โอรสและธิดาหนีภัยสงครามข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งไทยมาหลบซ่อนที่ถ้ำแห่งนี้ และนำทรัพย์สินเพชรทองพลอยมาด้วย ก่อนเสียชีวิตเพราะไข้ป่า ได้ฝังทองเพชรพลอยต่างๆไว้ด้วย เวลาชาวบ้านออกมาล่าสัตว์หาของป่าและพักค้างคืน จะพบเห็นประกายเพชรระยิบระยับออกมาจากถ้ำ ซึ่งชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปค้นหาสมบัติ  เพราะมีเจ้าป่าเจ้าเขาคุ้มครองรักษาอยู่ ชาวบ้านบางคนโลภเข้ามาขุดหาสมบัติ จะล้มป่วยและเสียชีวิต จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปหาสมบัติจวบจนทุกวันนี้และเป็นที่มาของ ถ้ำแสงเพชร

ต่อมา จะเป็นถ้ำโคนอน ตั้งอยู่ชั้นล่าง โดยมีรูปปั้นโค 2 ตัวนอนอยู่ปากถ้ำ ว่ากันว่า สมัยก่อนเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงโคป่า และใกล้กันจะเป็นถ้ำค้างคาว ปากถ้ำกว้าง 1 เมตร เมื่อใช้ไฟส่องบนผนังถ้ำจะพบเห็นค้างค้าวเกาะอยู่เต็มไปหมด ซึ่งอบอวนไปด้วยกลิ่นมูลค้าวคาว  จนแทบอาเจียน

ก่อนลงจากภูเขาขาม ห่างถ้ำค้างคาว เพียง 20 เมตร จะพบเห็นถ้ำพระ ซึ่งมีพระพุทธรูปปางสมาธิประดิษฐานอยู่พร้อมปัญจวคีทั้ง 5 และกราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล

จากนั้นมุ่งสู่วนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง ตั้งอยู่บ้านป๋าเจริญ ต.สร้างนกทา ห่างไป 3 กิโลเมตร อยู่เส้นทางเดียวกัน พบป้ายบอกทางเข้าวนอุทยานฯ และเข้าถนนย่อยอีก 2 กม.จะเห็นป้ายที่ทำการ วนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง ซึ่งภายในเนื้อที่ 12,000 ไร่ จะได้สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงาม เช่น น้ำตก ลานหิน ผาส่อง ผาผึ้ง อ่างกบ  ตะพาบหิน ทุ่งดอกหญ้า พระพุทธรูป ที่ชื่อว่า พระรัตนโกสินทร์ เป็นต้น 

ณ.ที่ภูสิงห์ – ภูผาผึ้ง แห่งนี้ มีลานบริการท่องเที่ยว สำหรับกางเต็นท์นอน ในยามค่ำคืน นอนนับดาว ชมดวงดาว ชมแสงจันทร์ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว  และสายลมพัดกระทบกายตลอดเวลา สุดแสนจะโรแมนติก

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยว อีกหลายแห่งที่ไม่ควรพราด เช่น พระเหลาเทพนิมิต ประดิษฐานภายในอุโบสถ วัดพระเหลาเทพนิมิต อ.พนา ซึ่งพระเหลาเทพนิมิตสร้างด้วยอิฐถือปูน ลงรักปิดทอง สูง 2.70 เมตร หน้าตักกว้าง 2.85 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลักษณะงดงามยิ่ง พระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ อายุกว่า 700 ปี ที่ อ.หัวตะพาน พระฤทธิ์ลือชัย ที่วัดอำนาจ อ.ลืออำนาจ ถือว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธคุณ เรื่อง โชคลาภ และ ยังมีถ้ำพญานาคอยู่ด้านทิศเหนือของวัดอีกด้วย