เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 ส.ค.68 นาย วิษณุ เข่งสมุทร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจาก พระอธิการสมนึก อติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดขุนสมุทราวาส (วัดขุนสมุทรจีน) ว่ามีพายุพัดถล่มวัดจน เมรุ ศาลาธรรม หลังคาทางเดินเท้าเข้าวัดพังถล่มเสียหาย ซากหลังคา เสา คาน หล่นกระจายเกลื่อนลงไปในทะเล จึงเดินทางไปตรวจสอบเบื้องต้นพร้อมนำชาวบ้านเข้าไปช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุแยกจากถนนสุขสวัสดิ์เข้าไปในซอย 2 ที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ประมาณ 12 กิโลเมตร ก่อนเดินเท้าเข้าไปที่วัดอีกประมาณ 300 เมตร โดยตลอดเส้นทางพบ ซากเสา คาน แปรหลังคา หล่นแตกกระจายเกลื่อนพื้น บางส่วนกระเด็นลงทะเลไปไกลเกือบ 80 เมตร หลังคาเมรุ หลังคาศาลาธรรมกระเบื้องแตกเป็นรูโหว่ จึงใช้ชาวบ้านช่วยกันเคลียร์พื้นที่นำเศษกระเบื้อง เสาปูน แผ่นไม้แปรหลังคาออกจากทางเดินเท้า เพื่อให้ประชาชนและชาวบ้านสามารถเดินทางเข้า-ออกวัดได้

จากการสอบถาม พระอธิการสมนึก อติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดขุนสมุทราวาส (วัดขุนสมุทรจีน) เล่าว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดกลางทะเลและเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในสมุทรปราการ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 18 ส.ค.68 ในระหว่างที่ทำกิจของสงฆ์อยู่ในวัด จู่ๆได้มีฝนตกลงมานานหลายชั่วโมงสลับหนัก-เบา และมีลมพัดมาตลอดเวลา ในระหว่างนั้นจู่ๆได้มีลมพายุพัดมาทางทิศตะวันตกอย่างรุนแรงนานกว่า 20 นาที ก่อนที่จะหอบหลังคาทางเดินเท้าซึ่งมีขนาดความกว้าง 3 เมตร ยาว 300 เมตร พังถล่มลงไปในทะเล แผ่นกระเบื้องหลังคากว่า 3,000 แผ่น ตกลงมาแตกเกลื่อน เสาปูน 3 เมตรจำนวน 100 ตัน หักโค่นพับลงมากองกับพื้น คาน แปรหลังคา หักโค่นลงมากอง บางส่วนกระเด็นลงทะเลไปไกลเกือบ 80 เมตร ต้นโกงกาง ล้มราบพื้น จนกระทั่งฝนและลงสงบจึงออกมาดูความเสียหาย จนรุ่งเช้าได้โทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2549 วัดเคยถูกพายุขนุนพัดถล่มจนคลื่นในทะเลซัดสูงเกือบ 2 เมตรใส่ตัวพระอุโบสถ์จนเกือบมิดหลังคาแต่ในปีนั้นทางวัดยังไม่ได้ค่อยก่อสร้างอะไรมากนักเนื่องจากประชาชนยังไม่ค่อยทราบว่ามีวัดอยู่กลางทะเล จึงวอนผู้มีจิตศรัทธาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือในการซ่อมแซมและบุรณปฏิสังขรณ์ต่อไป เพื่อให้ประชาชน ชาวบ้านได้เดินทางเข้ามาทำบุญที่วัดได้อย่างสะดวก

ทางด้าน นาย วิษณุ เข่งสมุทร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า กล่าวว่าในวันนี้ตนได้ให้ชาวบ้านมาช่วยกันรื้อซากปรักหักพังบริเวณทางเดินเท้าออกทั้งหมดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพระภิกษุ-สามเณร สามารถเดินเข้า-ออกรับบิณฑบาตได้และประชาชนเดินทางเข้า-ออกวัด โดยหลังจากนี้จะประสานไปยัง อบต.แหลมฟ้าผ่า ที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์และ จ.สมุทรปราการ ให้เข้ามาตรวจสอบพร้อมช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป.