จากกรณีเหตุดินโคลนถล่ม บ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ คืบหน้าวันที่ 30 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 12.39 น. พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิง อายุ 25 ปีจมอยู่ในโคลน ซึ่งจุดที่พบ  เป็นจุดที่น้องหมา K9 ลินลี่ กับ ซสฮาร่า ดมกลิ่นต้องสงสัย จึงให้ทีมค้นให้ ใช้เครื่องจักร  รถแบคโฮ  ค้นหา  จนพบผู้สูญหายในที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่ายังเหลือสูญหายอีก 2 ราย สรุปยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ที่ บ้านปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ สรุปตั้งแต่เกิดเหตุ คืนวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ช่วงเวลาตี 2 จนถึงปัจจุบัน วันที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 น.- พบผู้เสียชีวิตแล้ว รวมทั้งสิ้น 7 ราย- ยังคงเหลือสูญหายอีก 2 ราย ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ยังคงเร่งเดินหน้าค้นหาผู้ที่ยังสูญหายอีก 2 ราย อย่างเต็มที่

ทางด้านผู้ตรวจฯ ทศพล แนะทุกอำเภอ และ อปท.ในเชียงใหม่ สำรวจและติดตามค่าดัชนีความชุ่มชื้นของดินอย่างต่อเนื่อง เผื่อแจ้งเตือน ปชช. อพยพได้ทันยามสุ่มเสี่ยงเกิดดินโคลนถล่ม

โดยนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประจำเขตตรวจราชการที่ 15 ซึ่งดูแลเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย ได้เปิดเผยว่า ด้วยบริบทของเชียงใหม่ ส่วนใหญ่มีสภาพเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชัน ที่ราบเชิงเขากว่า 80%  เมื่อมีฝนตกจึงทำให้ดินชุ่มน้ำ และทำให้เสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์และดินโคลนถล่ม รวมถึงน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน

ดังนั้น จึงขอให้ทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ให้คอยสำรวจ ติดตาม เฝ้าระวัง monitoring รายงานค่าดัชนีความชุ่มชื่นของดิน หรือ ค่า API ประจำวันจากส่วนอุทกวิทยา สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 (สทน.ที่ 1) ทุกวัน  เพื่อประเมินสถานการณ์ หากเห็นค่า API เป็น ระดับสีเหลือง หรือแดง ต้องแจ้งเตือนผู้นำหมู่บ้าน ชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนไก้รับทราบข้อมูล และจะได้เตรียมพร้อม หรือ เคลื่อนย้ายออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ทันท่วงทีเมื่อยามเกิดสถานการณ์สุ่มเสี่ยง

ข้อมูล  Antecedent Precipitation Index (API) หรือ ดัชนีปริมาณฝนสะสม คือ ดัชนีที่ใช้เพื่อวัดความชื้นของดิน โดยคำนวณจากผลรวมของปริมาณฝนที่ตกสะสมในแต่ละวันในช่วงเวลาหนึ่งๆ เพื่อประเมินว่าดินมีความชื้นมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะเกิดปรากฏการณ์น้ำไหลหลาก (runoff) ซึ่งมีประโยชน์ในการคาดการณ์ปริมาณน้ำในดินและความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน”