เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุจากชายสองคนว่ารถยนต์น้ำมันหมด บริเวณสี่แยกวังตอ ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) เข้าตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือ

ในที่เกิดเหตุพบรถตู้กู้ชีพ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน นข 4268 กระบี่ จอดอยู่ริมถนน ข้างประตูรถติดสติกเกอร์ "สมาคมกู้ชีพ กู้ภัย อ.คลองท่อม จ.กระบี่" และ "หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยเพหลากระบี่" โดยมีชายสองคนยืนอยู่ ทราบชื่อคือนายเอ อายุ 19 ปี และ นายบี อายุ 17 ปี ทั้งสองสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ โดยอ้างตัวเป็นอาสากู้ชีพ เดินทางมาจากจังหวัดกระบี่เพื่อมาส่งศพในพื้นที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นพิรุธ จึงขอตรวจสอบบัตรประชาชน แต่ทั้งคู่บ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้นำมา เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่าทั้งสองไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือและเงินสดติดตัวมาด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของรถตู้คันดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อมูล ปลายสายแจ้งว่าไม่มีการส่งศพมายังจังหวัดตรัง เมื่อเจ้าหน้าที่ต้นสังกัดไปตรวจสอบรถที่จอดไว้ในศูนย์ฯ ก็พบว่ารถได้หายไป จึงยืนยันได้ทันทีว่ารถถูกขโมยมา

ด้าน น.ส.นิตยา อรุณรัตน์ หรือ "หยก" เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง กล่าวว่า ได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือเรื่องรถน้ำมันหมดตั้งแต่ช่วงเช้า โดยปลายสายแจ้งว่าอยู่ในพื้นที่อำเภอกันตัง แต่เมื่อวางสายไปไม่นานก็ได้รับวิทยุจาก สภ.เมืองตรัง แจ้งเรื่องรถน้ำมันหมดในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง ซึ่งเป็นรถคันเดียวกัน จึงคาดว่าอาจเป็นรถที่ถูกขโมยมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นรถที่ถูกขโมยจริง โดยทราบภายหลังว่าชายทั้งสองได้ขอยืมโทรศัพท์ของชาวบ้านแถวนั้นโทรมาขอความช่วยเหลือ

ขณะที่ นายธนกฤต บำรุงชู หรือ "ขวด" อาสาหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยเพหลากระบี่ ให้ข้อมูลว่า รถตู้คันดังกล่าวจอดไว้ที่ศูนย์ฯ ซึ่งตั้งอยู่หน้าวัดเพหลา ตำบลเพหลา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ โดยจะเสียบกุญแจรถไว้ตลอดเพื่อความสะดวกในการใช้งานเร่งด่วน จนกระทั่งตำรวจโทรมาสอบถาม จึงออกไปตรวจสอบก็พบว่ารถหายไปจริง จึงรีบไปแจ้งความที่ สภ.คลองท่อม ก่อนจะเดินทางมาที่ สภ.เมืองตรัง เพื่อยืนยันว่ารถถูกขโมยไปตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. และจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

เบื้องต้นจากการสอบสวน ชายทั้งสองให้การวกวน อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจขโมย เพียงแค่จะขับรถมาหาญาติที่อำเภอกันตัง และจะนำรถกลับไปคืนในช่วงเช้า แต่ญาติไม่อยู่ ประกอบกับน้ำมันหมดจึงไม่มีเงิน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองท่อม ได้นำตัวผู้ก่อเหตุกลับไปสอบปากคำอย่างละเอียด และจะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป