จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อ Anong Panthong ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์กำนันตำบลท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร ชักปืนพกสั้นออกมาข่มขู่ ขณะเข้าไปตักเตือนเรื่องซ่อมรถจักรยานยนต์เสียงดัง พร้อมระบุข้อความวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมผู้นำท้องถิ่นในลักษณะไม่เหมาะสม โดยคลิปดังกล่าวถูกแชร์ต่อจำนวนมาก มียอดเข้าชมนับล้านครั้ง และเพจต่าง ๆ นำไปเผยแพร่ต่อ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลากหลาย

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนลาดยางสายท่าหิน–เขาสวนทุเรียน พบรถจักรยานยนต์ที่กำลังซ่อมค้างอยู่ และได้พบกับนายอนิรุฒ อายุ 28 ปี และนางสาวพิมพ์ประไพ อายุ 27 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน
นายอนิรุฒ เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้าง และหลังเลิกงานจะมีคนรู้จักนำรถจักรยานยนต์มาให้ซ่อมเป็นครั้งคราว คืนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ได้ซ่อมรถที่ติด ๆ ดับ ๆ จนมีเสียงดัง จากนั้นกำนันและผู้ช่วยขับรถมาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สุภาพ กล่าวหาว่าตนทำเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ทั้งที่ตนเพิ่งย้ายมาอยู่กับภรรยาและไม่ใช่ผู้ก่อเหตุเป็นประจำตามที่ถูกกล่าวหา ขณะโต้เถียง กำนันได้ชักปืนออกมาข่มขู่ ทำให้ตนและภรรยาหวาดกลัว ต้องไปพักที่บ้านแม่ในคืนนั้น พร้อมทั้งได้แจ้งความดำเนินคดีกับ สภ.สวี แล้ว

นางสาวพิมพ์ประไพ ผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์ ระบุว่า เห็นกำนันเดินเข้ามาท่าทางไม่เป็นมิตร จึงหยิบโทรศัพท์มาถ่ายไว้ตั้งแต่ต้น ยืนยันว่าไม่มีการตัดต่อ และเหตุการณ์ทั้งหมดตรงตามที่เผยแพร่ โดยมารดาเป็นผู้โพสต์คลิปเพราะเห็นว่ากำนันทำเกินกว่าเหตุ
ด้านนายฤทธิพร อายุ 30 ปี ผู้ที่เข้าไปห้ามในคลิป เล่าว่าขณะเกิดเหตุกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับเพื่อน เมื่อเห็นกำนันชักปืน จึงรีบเข้าไปห้าม แต่กลับถูกผลักอกให้ถอยออกไป มองว่ากำนันควรใช้การพูดคุยมากกว่าการใช้อาวุธ

ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.สวี ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน รวมถึงนัดผู้เสียหายไปให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นรับแจ้งความในข้อหา “ใช้อาวุธปืนข่มขู่” และหากพบองค์ประกอบความผิดอื่น จะสามารถแจ้งความเพิ่มเติมได้
ด้านนายนิรัตน์ อายุ 58 ปี กำนันตำบลท่าหิน ชี้แจงว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องซ่อมรถเสียงดังมานานแล้ว ทั้งทางหนังสือและวาจา และเคยตักเตือนเจ้าของบ้านมาก่อน วันเกิดเหตุได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์เบิ้ลเครื่องดังหลายครั้ง จึงเข้าไปว่ากล่าว แต่ระบุว่าฝ่ายคู่กรณีพูดจาไม่เหมาะสมและมีเพื่อนชายอยู่หลายคน ตนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงชักปืนออกมาป้องกันตัว โดยยืนยันว่ามีทะเบียนถูกต้อง และเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องเรียนของชาวบ้าน พร้อมยอมให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบ

ขณะที่นายวิทยา อายุ 48 ปี เจ้าของบ้านที่อยู่ใกล้เคียง และเป็นเพื่อนที่นั่งดื่มกาแฟกับกำนันก่อนเกิดเหตุ เล่าว่า ได้ยินเสียงเบิ้ลเครื่องดังมากจริง และมีชาวบ้านร้องเรียนเข้ามา จึงเข้าใจว่ากำนันตั้งใจไปตักเตือน แต่เหตุการณ์กลับบานปลายตามที่เห็นในคลิป ทั้งนี้ นายวิทยาได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเสียงรถจักรยานยนต์ดังช่วงเกิดเหตุมามอบให้ผู้สื่อข่าวเป็นหลักฐานเพิ่มเติมด้วย