อำเภอคูเมือง / ตำรวจและฝ่ายปกครอง 2 อำเภอ ปิดล้อมสกัดจับเด็กแว้นแข่งซิ่งป่วนชาวบ้านกลางดึก ยึดรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อดัง 13 คัน ควบคุมตัวได้ 24 คน กองเชียร์โดนด้วย หลังนัดรวมตัวผ่านโซเชียลทุกศุกร์–เสาร์

วันที่ 20 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ณรงศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.ควรคิด ชวนจิต ผกก.สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ สนธิกำลังกับฝ่ายปกครองอำเภอคูเมืองและอำเภอลำปลายมาศ เข้าจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวซิ่งรถจักรยานยนต์กว่า 50 คัน บริเวณ กม.29–30 ถนนสายคูเมือง–ลำปลายมาศ (แยกอโศกดู่) ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา

เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นเจ้าหน้าที่ได้พยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเยาวชนได้ 24 คน พร้อมรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง 13 คัน ท่อไอเสียดัง

จากการสอบถาม วัยรุ่นที่ถูกควบคุมตัวรับสารภาพว่า เดินทางมาร่วมชมและเชียร์การแข่งรถครั้งนี้ โดยได้รับการชักชวนจากคนรู้จักผ่านโซเชียล เจ้าหน้าที่จึงยึดรถทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมนำตัวทั้ง 24 คน ไปที่ สภ.คูเมือง เพื่อคัดแยกผู้ที่แข่งรถในทาง ผู้ที่สนับสนุน หรือผู้ที่พยายามแข่งรถ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ก่อนจับกุมได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมักรวมตัวแข่งรถบนถนนสาธารณะ ระหว่างเวลา 22.00–02.00 น. ทุกศุกร์–เสาร์ ของเดือน บริเวณถนนสายคูเมือง–ลำปลายมาศ กม.29–30 สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ สภ.คูเมืองจึงส่งสายลับเข้าไปหาข่าวจนทราบการนัดหมาย และวางแผนสนธิกำลังจับกุม กระทั่งคืนวันที่ 19 ก.ย. 2568 ได้รับสัญญาณจากสายลับว่ามีการเริ่มแข่งรถ จึงนำรถบรรทุก 4 คันเข้าปิดถนนตามแผนการ โดยการปฏิบัติครั้งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และไม่มีทรัพย์สินเสียหาย

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ กล่าวฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานใกล้ชิด โดยเฉพาะการรวมกลุ่มแข่งรถในเวลากลางคืน ซึ่งนอกจากสร้างความเดือดร้อนและเสี่ยงอุบัติเหตุแล้ว ยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ผู้ปกครองอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (2) ฐาน “ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด”