วันศุกร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568 02:07 น.

ภูมิภาค

เชียงรายลุก! ภาคประชาชนกดดันรัฐแก้มลพิษข้ามพรมแดนใน 4 เดือน

วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.31 น.

เชียงราย – ภาคประชาชนและนักวิชาการร่วมเวทีเสวนา “แร่พิษไหลข้ามพรมแดน กฎหมายการตรวจสอบย้อนกลับและสิทธิในการคุ้มครองแม่น้ำกก-สาย-รวก-โขง” ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย สังคม และวิศวกรรมเหมืองแร่ ร่วมนำเสนอข้อมูลปัญหาสารพิษจากเหมืองในเมียนมา ที่ไหลข้ามพรมแดนเข้าสู่แม่น้ำไทย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และวิถีชีวิตของประชาชนริมลุ่มน้ำ

นักวิชาการระบุว่า ปัญหาสารโลหะหนัก เช่น สารหนูและแบเรียม ไม่ได้มาจากเหมืองแร่เท่านั้น แต่ยังอาจมาจากสารเคมีทางการเกษตร ขณะเดียวกันไทยไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการทำเหมือง เนื่องจากเป็นเพียงเส้นทางผ่านของการขนส่งแร่ไปยังประเทศคู่ค้า ขณะที่การแข่งขันด้านราคาของตลาดโลกทำให้ผู้ประกอบการลดต้นทุน กระบวนการถลุงแร่จึงก่อให้เกิดมลพิษรุนแรงยิ่งขึ้น นักศึกษาที่เข้าร่วมเวทีเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการเข้าถึงน้ำสะอาดและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย

ในช่วงบ่าย มีการเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากภาคประชาชนและชุมชนริมลุ่มน้ำ โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองและมูลนิธิเข้าร่วมรับข้อเสนอ ก่อนนำไปเสนอต่อรัฐบาลอนุทิน ซึ่งประชาชนคาดหวังว่าภายใน 4 เดือน จะต้องเห็นความคืบหน้า โดยเป้าหมายหลักคือการปิดเหมืองในเมียนมา ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก-สาย-รวก-โขง และวางมาตรการเยียวยา ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ น้ำอุปโภคบริโภค การเกษตร และสุขภาพของประชาชน

ข้อเสนอสำคัญ ได้แก่ การจัดหาแหล่งน้ำใหม่ให้กว่า 55,000 ครัวเรือนในเชียงรายและเชียงใหม่ การปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน 30 แห่ง การตรวจสอบดินและผลผลิตเกษตรกว่า 100,000 ไร่ รวมถึงการยุตินำเข้าแร่จากเมียนมา พร้อมเจรจากับเมียนมาและจีนให้ร่วมรับผิดชอบ อีกทั้งยังมีการเรียกร้องให้รัฐกำหนด milestone การเจรจา และสร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดนอย่างจริงจัง

 

หน้าแรก » ภูมิภาค