วันที่ 23 กันยายน 2568 ดร.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6   นายกฤษณ์  ตรีนุชกร ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยองนายแพทย์ประดิษฐ์ ปฐวิศรีสุธา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง (ด้านเวชกรรมป้องกัน) และ นายแพทย์ภูษิตทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลระยอง และ กลุ่ม ปตท. ร่วมพิธีเปิดและ ส่งมอบโครงการปรับปรุงอาคารผู้ป่วยนอก ชั้น 1 แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ (O/thopedic) และแผนกคลินิกเบาหวานณ ห้องประชุมประตู่ทอง ชั้น H อาคารบูรพาทิศ โรงพยาบาลระยอง
นายกฤษณ์ ตรีนุชกร ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม กลุ่ม ปตท.

จังหวัดระยอง กล่าวว่า "กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง มุ่งมันที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง โดยการสนับสนุนโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย คลอดจนสร้างความมันใจให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ทีมีคุณภาพและมาตรฐานด้วยความตั้งใจดังกล่าว กลุ่ม บตท. จังหวัดระยอง จึงเข้ามามิส่วนร่วมสนับสนุนการปรับปรุงและขยายพื้นที่บริการของ แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ และ แผนกคลินิกเบาหวาน โดยได้ปรับปรุงห้องตรวจหลัก 6 ห้อง ห้องหัตถการ 1 ห้อง ห้องตรวจและห้องสอนแสดง 1 ห้อง ห้องเผือกและห้อง ผ่าตัดเล็ก พร้อมพื้นที่สอนแสดงสำหรับนักศึกษาแพทย์ รวมมูลค่ากว่า 5,000,000 บาท โดยหวังว่าการพัฒนาพื้นทิครั้งนี้จะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของจังหวัดอย่างยังยิน

นายแพทย์ภูษิต ทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า "การปรับปรุงครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับ ศักยภาพของโรงพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยเฉพาะทางให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีคุณภาพมากยิงขึ้น เป็นประโยชน์อย่าง ยิ่งต่อประชาชนในจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง ผมขอขอบคุณกลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง และทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมผลักดันให้โครงการนี้สำเร็จจุล่วง ซึ่งโรงพยาบาลจะมุ่งมั่นพัฒนาการรักษาและการบริการอย่างต่อเนือง เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน"

ทั้งนี้ กลุม ปตท. จังหวัดระยอง หวังว่า การปรับปรุงครั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนในพื้นทีจังหวัดระยองและ พื้นที่ใกล้เคียงได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน ครอบคลุม และทัวถึง พร้อมเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาระบบสาธาวณสุขของจังหวัดระยองอย่างยังยืนในอนาคต