ยังไม่ไว้ใจสถานการณ์ไทย–กัมพูชา หวั่นปะทะรอบ 2 โรงเรียนเร่งปรับปรุงเส้นทางหนีภัย เตรียมทำบังเกอร์เพิ่มรองรับ 500 คน ซ้อมแผนอพยพต่อเทอม 2 สร้างความคุ้นเคยให้นักเรียน

อ.เมือง จ.ตราด / (28 กันยายน 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนวัดคิรีวิหาร (สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ผู้นำชุมชนตำบลชำราก ประชาชน และกลุ่มจิตอาสา ได้นำรถบรรทุกดินเข้ามาปรับปรุงเส้นทางเข้าไปยังหลุมหลบภัยที่สร้างขึ้นภายในโรงเรียน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยได้รับการสนับสนุนดินและหินจำนวน 500 คิว จากหมวดการทางแหลมกลัด แขวงทางหลวงตราด

นางสาวธิดา เมฆวะทัต ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดคิรีวิหาร เปิดเผยว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยหลุมหลบภัยดังกล่าวสามารถรองรับนักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้ประมาณ 300 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการก่อสร้างไว้แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการปรับปรุงเพิ่มเติม และในอนาคตจะสร้างบังเกอร์เพิ่มให้รองรับได้ถึง 500 คน

“วันนี้ทางชุมชนได้มาช่วยกันทำทางเข้าไปยังบังเกอร์ เนื่องจากพื้นดินด้านในยังมีการยุบตัวอยู่ จึงได้ขอรับการสนับสนุนวัสดุจากหมวดการทางแหลมกลัดมาปรับปรุงเส้นทางและตกแต่งภายในหลุมเพื่อป้องกันดินสไลด์ ทำให้หลุมหลบภัยพร้อมใช้งานได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ไม่ปลอดภัย” ผอ.โรงเรียนกล่าว

นางสาวธิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะรอบแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดทำแผนอพยพและซักซ้อมให้นักเรียนและบุคลากรคุ้นเคยกับสัญญาณเตือนภัยและขั้นตอนการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และหลังจากการปรับปรุงหลุมหลบภัยเสร็จสิ้น จะมีการซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอ โดยคาดว่าจะเริ่มในช่วงเปิดเทอม 2 เนื่องจากโรงเรียนใกล้ปิดภาคเรียน เพื่อให้ทุกคนเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อใด

ขณะที่ พระปกรณ์ ฐานาจโร จากวัดพระฆ้อ อ.เขาสมิง จ.ตราด แกนนำกลุ่มจิตอาสาที่ร่วมแรงในครั้งนี้ กล่าวว่า กลุ่มจิตอาสาสายบุญได้นัดแนะและชักชวนผู้มีจิตศรัทธาที่ว่างเว้นจากภารกิจมาร่วมทำงานเพื่อส่วนรวม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เจ้าของรถเติมน้ำมันกันเอง

พระปกรณ์ กล่าวต่อว่า การมาช่วยโรงเรียนครั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ ซึ่งเปรียบเสมือนลูกหลาน เมื่อรู้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก อะไรที่พอช่วยประเทศชาติได้ก็อยากทำ โดยวัสดุที่นำมาใช้ได้รับการสนับสนุนจากแขวงทางหลวงคลองสน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้ช่วยประสานงานให้