วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากน้าสาวรายหนึ่งว่า หลานสาวของตนถูกแม่ลูกคู่หนึ่งดักทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.หารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง จนบาดเจ็บต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาลปากพะยูน ขณะนี้แพทย์ยังเฝ้าดูอาการ อีกทั้งยังมีการข่มขู่ท้าทายไม่ให้ไปแจ้งความ พร้อมอ้างว่ารู้จักตำรวจ

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักของนางรัชนู หรือ “แม่จุ่ม” อายุ 43 ปี ชาว จ.สงขลา ซึ่งเป็นมารดาของนักเรียน ม.3 ที่ถูกทำร้าย โดยมอบหลักฐานคลิปวิดีโอและภาพข้อความจากโซเชียลที่มีการโพสต์ท้าทายและใช้ถ้อยคำหยาบคาย

นางรัชนูกล่าวว่า ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ม.3 และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไลฟ์สดเล่นตามปกติ มีนักเรียน ม.1 เข้ามาคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสม และแม่ของนักเรียน ม.1 ก็เข้ามาคอมเมนต์ด้วย จึงเกิดการโต้เถียงกัน กระทั่งวันจันทร์หลังเลิกเรียน แม่ของนักเรียน ม.1 พร้อมลูกสาวมาดักรอหน้าโรงเรียน ก่อนจะกระชากผมลูกสาวตนจากด้านหลัง และสั่งให้ลูกสาวทำร้ายร่างกาย ทั้งตบและดันศีรษะกระแทกพื้นถนน

เหตุการณ์ถูกถ่ายคลิปไว้ชัดเจน โดยเพื่อนนักเรียนพยายามเข้ามาช่วยแต่ถูกห้าม และมีการสั่งว่า “ตบเลย เอาหัวโขกพื้น” ก่อนที่พลเมืองดีเข้ามาช่วยห้าม และนำตัวนักเรียน ม.3 ส่งโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ตรวจพบว่ามีบาดแผลบริเวณศีรษะและใบหน้า อาการมึนศีรษะและอาเจียนจากการกระแทก

ด้านนางสาวธัญญลักษ์ อายุ 38 ปี มารดาของนักเรียน ม.1 ชาว จ.พัทลุง กล่าวอ้างว่า ตนไม่ได้ยุยงให้ลูกทำร้าย แต่เห็นว่าลูกสาวมีปัญหากับรุ่นพี่ ม.3 มาก่อน โดยรุ่นพี่ด่าแม่ของตนในไลฟ์สด จึงเป็นเหตุบานปลาย

นักเรียน ม.1 ให้การว่า “พี่เขามาด่าแม่หนูก่อน” จึงมีการโต้เถียงกันผ่านโซเชียลและตบกันที่หน้าโรงเรียน หลังเกิดเรื่อง รู้สึกเครียดไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะถูกสังคมวิจารณ์หนักจากคลิปที่เผยแพร่

ขณะที่ยายของนักเรียน ม.1 ระบุว่า รู้สึกเป็นห่วงหลานเพราะถูกสังคมกดดัน ทั้งที่ไม่ใช่ผู้เริ่มต้นเรื่อง และกังวลว่าจะไม่อยากไปโรงเรียนต่อ