วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:39 น.

ภูมิภาค

บัวลอยทำพิษฝนตกหนักน้ำเหนือสูงต่อเนื่องจ่อระบายเพิ่ม เตือนท้ายเขื่อนเฝ้าระวัง 1-3 วันนี้

วันพุธ ที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.15 น.

วันที่ 1 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และน่าเป็นห่วง หลังจากที่กรมชลประทาน ได้มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 3 ต่อเนื่อง ระดับน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องผลพวงจากพายุบัวลอยที่ทำให้ฝนตกหนักเติมน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ตลอด

สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อยู่ที่ 2,685 ลบ.ม./วินาทีที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 16.03 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.47 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 87 ซม. และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระยายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 2,300 ลบ.ม./วินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานี C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,428 ลบ.ม./วินาที

นายวิชัย ผันประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผย ว่า ขณะนี้เขื่อนหลักทั้ง 4 แห่งมีปริมาณน้ำเก็บกักในระดับสูง เริ่มจากเขื่อนภูมิพลเก็บน้ำแล้ว 85% เขื่อนสิริกิติ์ 92% ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองเขื่อนได้รองรับน้ำฝนจากอิทธิพลพายุต่าง ๆ เกือบทั้งหมด เหลือเฉพาะฝนที่ตกใต้เขื่อนที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ขณะที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีน้ำ 90% และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 76% ด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้พยายามระบายให้น้อยที่สุดเพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน แต่ต้องคำนึงถึงสถานการณ์ฝนเหนือเขื่อนและการคาดการณ์ในระยะสั้นร่วมกันด้วย

สำหรับปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา มวลน้ำจากแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ไหลมารวมที่จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นจาก 2-3 วันที่ผ่านมา แต่เขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องปรับลดระดับเหนือเขื่อนเพื่อรองรับน้ำเหนือที่กำลังมา โดยปัจจุบันระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ +16.00 เมตรรทก. ระบายท้ายเขื่อน 2,300 ลบ.ม./วินาที และรับน้ำเข้าระบบ 360 ลบ.ม./วินาที อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง

แม้พายุบัวลอยจะไม่พัดเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่มีอิทธิพลต่อระบบลมมรสุมและทำให้เกิดร่องฝน โดยเฉพาะในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ส่งผลให้จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร มีมวลน้ำสะสมจำนวนมาก รวมทั้งมีฝนลงซ้ำ น้ำทั้งหมดจะไหลลงมารวมที่ลุ่มเจ้าพระยาในช่วงนี้

ตามแบบจำลองคาดการณ์ทางคณิตศาสตร์ ระดับน้ำที่สถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ อาจเพิ่มสูงถึง 2,900 ลบ.ม./วินาที ในระยะสั้น ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องเตรียมบริหารจัดการ โดยยกระดับการหน่วงน้ำและเพิ่มการผันน้ำเข้าระบบ 400-450 ลบ.ม./วินาที ขณะที่น้ำส่วนเกินจะทยอยระบายท้ายเขื่อนเพิ่มจากระดับ 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,400-2,500 ลบ.ม./วินาที สอดคล้องตามหนังสือแจ้งเตือนฉบับที่ 7 ที่ได้ประกาศล่วงหน้าแล้ว

ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและท้ายเขื่อนจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ควรเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-3 วันนี้
 

หน้าแรก » ภูมิภาค