เมื่อเวลา13.10น. วันที่ 1 ต.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้รับแจ้งจากนายชัยยา  ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก (ในพื้นที่รอยต่อ4จังหวัด จ.ปราจีนบุรี จ.นครนายก จ.สระบุรี และ จ นครราชสีมา) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568ที่ผ่านมาพบ  เฟซบุ๊กเพจ “ชมรมจิตอาสาเพื่อผู้พิทักษ์ทรัพยากรประเทศไทย” โดยบัญชีชื่อ “มาเพื่อเซฟเรนเจอร์” ได้โพสต์ข้อความกล่าวหา นายภัทรพล ซุ้นฮั้ว และ ตน (หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ) พร้อมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า

โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ฝ่าฝืนต่อความจริง เช่น ผู้พิทักษ์ป่า ไม่ได้รับการดูแลขาดแคลนอุปกรณ์ปฏิบัติหน้าที่ ต้องมาขอการสนับสนุน, เงินเดือน/สมาร์ทพาโทรลถูกหักจ่ายไม่ครบ, ถูกกีดกันการทำงาน โดยคนของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เข้ามาล็อบบี้ไม่ให้ชุดผลักดันช้างป่าที่ชมรมฯ ตั้งขึ้น ส่งงานหรือข่าวสารให้ชมรมฯ ทราบ ฯลฯ

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ตนเอง(หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) และ  นายภัทรพล ซุ้นฮั้ว ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิดฐานหมิ่นประมาทและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้หน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหาย และจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด

โดยในกรณีดังกล่าว บุคคลที่ให้สัมภาษณ์ในคลิปวิดีโอคือ นายวาสนา คนเกณฑ์ ตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่า ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ตนได้ให้ไว้กับชมรมจิตอาสาเพื่อผู้พิทักษ์ทรัพยากรประเทศไทย เมื่อประมาณสามปีที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อป้องกันการเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อความจริงและให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ในการแจ้งความร้องทุกข์ 

ได้เชิญนายวาสนา คนเกณฑ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วย ซึ่งนายวาสนาได้ให้ถ้อยคำยอมรับว่า บุคคลในคลิปเป็นตนเองจริง คลิปดังกล่าวถูกอัดไว้เมื่อสามปีก่อน ขณะที่ตน อยู่ในอาการมึนเมาและมีความเครียด ข้อมูลที่ให้ไว้กับชมรมฯ นั้น "ไม่เป็นความจริง" ตนได้กล่าว ยอมรับผิดและขอโทษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และนายภัทรพล ซุ้นฮั้ว ต่อหน้าพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายชัยยากล่าวต่อไปว่า  ทั้งนี้เพจดังกล่าวได้เคยโพสต์ข้อความหมิ่นประมาททำให้เกิดความเสียหายในลักษณะเช่นเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีไว้ที่ สภ.หมูสี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567

นอกจากร้องทุกข์กรณีดังกล่าวนี้ผ่านผู้สื่อข่าวแล้ว พบทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  มีการแจ้งแก่ประชาชนทราบข่าวสารผ่านทางเพจของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกทางหนึ่งด้วย