ปาฏิหาริย์มีจริง! หนุ่มใหญ่หาเห็ดโคนติดป่า 7 วัน กินแต่น้ำประทังชีวิต อ้างไม่ได้หลงป่า เล่าวินาทีเจอช้างป่าเดินสวนไม่กลัวตาย

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ติดกับเขตป่าชุมชน ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เจ้าหน้าที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งได้รับแจ้งเหตุว่ามีชาวบ้านเข้าไปหาเห็ดโคนในป่าแล้วไม่กลับออกมาตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2568 คาดว่าน่าจะพลัดหลงอยู่ในป่า จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ พร้อมด้วยนายอนุพันธ์ สารสุวรรณ์ กำนัน ต.ระบำ ผู้นำชุมชนในพื้นที่ กู้ภัยอุทัยธานีจุดลานสัก สมาคมกู้ชีพกู้ภัยอำเภอบ้านไร่ สมาคมกู้ภัยกำนันปี๊ด นครสวรรค์ มูลนิธิกู้ภัยเสมอกันสุพรรณบุรี และจนท.ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.อุทัยธานี ร่วมปูพรมค้นหาภายในป่าและลำห้วยตั้งแต่วันแรก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 จนท.ตรวจสอบพบภาพบุคคลเดินผ่านกล้องดักถ่ายสัตว์ แถวบริเวณ “หลังกระทะแตก” ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงนำกำลังเข้าพื้นที่และสามารถช่วยเหลือผู้สูญหายได้อย่างปลอดภัย พบอยู่ในสภาพอิดโรย อ่อนแรง มีแผลกดทับที่ก้นและน่องด้านหลัง อาการค่อนข้างป่วย พูดจาเบลอและอ่อนแรง จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลลานสักเพื่อรักษาเร่งด่วน

ทราบชื่อผู้สูญหายคือนายดนัย ทองบุญณะ อายุ 46 ปี ชาวบ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ระหว่างนำส่งโรงพยาบาล นายดนัยให้การว่า ได้เข้าไปหาเห็ดโคนในป่า ยืนยันว่าไม่ได้หลงป่า แต่ตั้งใจเดินหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อหาทางออก โดยระหว่างติดอยู่ในป่า ได้เดินสวนกับช้างป่า วินาทีนั้นไม่รู้สึกกลัวตายแล้ว แต่โชคดีที่ช้างป่าไม่ได้ทำร้าย และตลอดเวลาหลายวันที่อยู่ในป่า ต้องอาศัยดื่มน้ำตามทางเพื่อประทังชีวิต กระทั่งเจ้าหน้าที่พบเจอและช่วยออกมาได้

ด้านนางสาวลลิตา อายุ 26 ปี บุตรสาวผู้สูญหาย เปิดเผยว่า พ่อได้ขอเงินตนเอง 50 บาท ไปเติมน้ำมันรถเพื่อออกไปหาเห็ดโคนในป่า โดยนำข้าวห่อไปกินด้วย ออกไปตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 68 แต่ไม่เห็นกลับมาสักที และไม่สามารถติดต่อได้ จึงคิดว่าน่าจะพลัดหลงในป่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย